จันทบุรี มีเกษตรแปลงใหญ่ครอบคลุมทั้งพืช ประมง ปศุสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด ลองกอง ลำไย ยางพารา หญ้าเนเปียร์ กุ้งขาว และโคนม โดยแต่ละแปลงจะมีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมไม่เหมือนกัน บางแปลงสำเร็จเรื่องปรับลดต้นทุน บางแปลงสำเร็จเรื่องการเพิ่มผลผลิต และที่เห็นเด่นชัด คือ มังคุด ที่ถือว่าประสบความสำเร็จด้านการตลาด โดยเฉพาะมังคุดแปลงใหญ่เขาคิชฌกูฏ ที่พัฒนาเรื่องตลาดด้วยการใช้ระบบประมูล ไม่ขายผลผลิตให้พ่อค้ารายใดรายหนึ่ง จนวันนี้กลายเป็นโมเดลสำคัญของการทำแปลงใหญ่มังคุดในจันทบุรี

แปลงใหญ่มังคุดจันทบุรี ตอบโจทย์ตลาด เกษตรกรรวมกลุ่มประมูล เกรดเอราคาพุ่ง ก.ก.ละ 90 บาท

นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า สถานการณ์มังคุดปี 2562 จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ต้นมังคุดมีเวลาพักสะสมอาหารนาน ทำให้ติดผลได้มากในปีนี้ ส่วนด้านราคาถือว่าอยู่ในระดับดี มังคุดเกรดมันรวมเฉลี่ยกิโลกรัมละ 80-90 บาท มังคุดกากกิโลกรัมละ 70 บาท ส่วนเกรดตกไซส์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50 บาท หลังจากการทำโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง คือ หลังจากที่เกษตรกรแปลงใหญ่ ได้รวมแปลงดำเนินการร่วมกันตั้งแต่การผลิตไปจนสู่การตลาด มีการพัฒนาในเรื่องของคุณภาพเป็นเกรดพรีเมียมมากขึ้น เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิธีการขาย มีความเข้มแข็งและสามารถต่อรองราคาได้ ซึ่งที่ผ่านมาจะประมูลแบบขายคละรวมกันทุกเกรด แต่ปีนี้เกษตรกรเปลี่ยนมาเป็นประมูลตามเกรด เพราะเกษตรกรแปลงใหญ่ วิเคราะห์กลุ่มพ่อค้าว่ามีความต้องการผลผลิตไม่เหมือนกัน กลุ่มส่งออกต้องการเกรดพรีเมี่ยม ส่วนกลุ่มที่จำหน่ายในประเทศต้องการเกรดรองลงมา ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันกันเองในแต่ละกลุ่ม เกษตรกรก็จะขายผลผลิตได้ราคาที่สูงขึ้น ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญ หากเกษตรกรไม่เข้าใจมิติของตลาดเลย สิ่งที่เราบอกว่าต้องพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการให้กับเกษตรกรมันไม่มีทางเกิดได้สำเร็จ เพราะการทำเกษตรเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง เกษตรกรต้องเข้าใจ และมีการวางแผน รู้ว่าตนเองลงทุนไปเท่าไร ควรได้กำไรเท่าไร กระบวนการที่กว่าจะไปถึงกำไร ต้องทำอะไรบ้าง ต้องควบคุมคุณภาพ ควบคุมความเสี่ยงต่างๆ อย่างไร นั่นคือสิ่งที่กรมส่งเสริมการเกษตรพยามยามที่จะเติมความรู้เหล่านี้ ให้กับเกษตรกรแปลงใหญ่ ไปพร้อมๆ กับการสร้างความเข้าใจ เช่นเดียวกับ เกษตรกรแปลงใหญ่มังคุดที่มีการเรียนรู้ร่วมกัน ตั้งแต่กระบวนการผลิต ที่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเกษตรกรควรที่จะปรับตัว สำหรับการควบคุมคุณภาพ และการตลาด ปัจจุบันเกษตรกรแปลงใหญ่มังคุดจันทบุรีทุกแปลงได้รวมผลผลิตกันเพื่อให้พ่อค้าเข้ามาประมูล ซึ่งสามารถสร้างปริมาณด้านการตลาดได้มากขึ้น และอำนาจในการต่อรองก็จะมากขึ้น

แปลงใหญ่มังคุดจันทบุรี ตอบโจทย์ตลาด เกษตรกรรวมกลุ่มประมูล เกรดเอราคาพุ่ง ก.ก.ละ 90 บาท“เกษตรกรแปลงใหญ่มังคุดจันทบุรี ถือเป็นความสำเร็จในการดำเนินการตลาด เกษตรกรสามารถเพิ่มช่องทางตลาดด้วยการจัดประมูลมังคุด ไม่ขายผลผลิตให้พ่อค้ารายใดรายหนึ่ง ส่งผลต่อการพัฒนาเกษตรกรและผลผลิตมังคุดในภาพรวม เกษตรกรเกิดการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น สามารถสร้างอํานาจในการต่อรองราคา ให้สมาชิกในกลุ่มมีรายได้เพิ่มมากขึ้น สามารถขายผลผลิตได้ทุกเกรดคุณภาพ มีกระบวนการทํางานแบบมีส่วนร่วม และมีการแบ่งหน้าที่การทํางานกันอย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาลทั้ง 5 ด้าน คือ การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิต การพัฒนาคุณภาพ การตลาด และการบริหารจัดการ” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated