5 วิธีเลือกซื้อที่ดินทำเกษตร
5 วิธีเลือกซื้อที่ดินทำเกษตร

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาหาการเกษตรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกษตรเล็กๆ ในห้องพักของตัวเอง หรือหลังบ้าน บางคนก็ขยายเป็นแปลงเกษตรบนพื้นที่เล็กๆ ละแวกบ้าน หารายได้เข้ากระเป๋านิดๆ หน่อยๆ แต่อาจจะมีหลายๆ คนที่กำลังมองหาที่ดินสักผืนหนึ่งมาเพื่อทำการเกษตรเต็มตัว อาจจะต้องเลือกที่ดินดีๆ หน่อย จะได้สามารถปลูกพืชผักได้ตามความต้องการ แล้วที่ดินที่เหมาะกับการทำเกษตรต้องดูยังไง วันนี้เรามีวิธีเลือกซื้อที่ดินแบบเบื้องต้นให้เหมาะกับการทำเกษตรพื้นฐานกัน ไปดูกันเลย

5+1 วิธีเลือกซื้อที่ดินเบื้องต้นให้เหมาะกับการทำเกษตร1. อยู่ติดกับแหล่งน้ำ หรือใกล้แหล่งน้ำ

สิ่งแรกที่จะต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อที่ดินเพื่อทำการเกษตรก็คือแหล่งน้ำ เพื่อที่จะสามารถนำน้ำมาใช้ในแปลงเกษตรของตัวเองได้ทั้งปี แม้กระทั่งในหน้าแล้งก็ตาม หรือถ้ากังวลว่ามีแหล่งน้ำแล้วแต่จะไม่พอ ก็อาจจะขุดบ่อน้ำเพิ่มก็ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่ไม่ควรทำคือการดึงน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้ อย่างปัญหาเกี่ยวกับการจัดการตะกอน หรือพื้นดินทรุดตัว

2. อยู่ไม่ไกลจากที่อยู่อาศัยประจำ

ที่ดินผืนที่คุณกำลังจะทำการเกษตรควรอยู่ไม่ห่างจากถนนและไม่ไกลจากที่อยู่อาศัยประจำของตัวเอง เพื่อให้การเดินทางไปกลับระหว่างที่พักและที่ดินเกษตรเป็นไปอย่างสะดวก จะได้ลดเวลาในการเดินทาง โดยเฉพาะคนที่เป็นเกษตรกรที่ต้องทำงานในวันธรรมดาและไปทำสวนได้เฉพาะในวันหยุด จะได้ไม่ท้อใจในการเดินทางจากเมืองเข้าสู่แปลงเกษตรของตัวเอง

5+1 วิธีเลือกซื้อที่ดินเบื้องต้นให้เหมาะกับการทำเกษตร

  1. ใกล้ตลาด ชุมชน หรือผู้ซื้อรายใหญ่

หากคุณต้องการปลูกพืชเพื่อจำหน่าย ที่ดินผืนนั้นของคุณจำเป็นที่จะต้องอยู่ใกล้พื้นที่เหล่านั้น เพื่อสามารถขนส่งผลผลิตจากแปลงของคุณไปจำหน่ายได้โดยง่าย ช่วยให้ผลผลิตลดการช้ำหรือลดความเสียหายจากการขนส่ง และไม่เสียเวลาในการขนส่งจนมากเกินไปอีกด้วย

  1. มีเพื่อนบ้านและสังคมโดยรอบที่ดี

การที่จะซื้อที่ดินใหม่ ไม่ว่าจะเพื่อการเกษตรหรือที่อยู่อาศัยควรสำรวจเพื่อนบ้านดูให้ดีๆ และลองถามเจ้าหน้าที่ต่างๆ ว่ามีคดีลักขโมยหรือคดีทำนองนี้มากน้อยแค่ไหน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ตัวเอง ในการซื้อที่ดินแปลงนั้นมาทำประโยชน์ตามความต้องการของตัวเอง รวมถึงเข้าไปทำความรู้จักผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่โดยรอบที่ดินที่คุณต้องการซื้อ เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณและคนในละแวกนั้น

5. สำรวจที่ดินจากต้นไม้บริเวณนั้น

เพื่อที่จะได้รู้ว่าแปลงเกษตรตรงที่เราจะซื้อนั้น สามารถเพาะปลูกพืชชนิดใดได้ดีที่สุด เพราะบางแปลงอาจจะเป็นดินเค็ม ที่ไม่สามารถปลูกอะไรได้เลย แม้แต่หญ้าก็ยังไม่ขึ้น การเลือกที่ดินเพื่อทำการเกษตรจึงควรเลือกให้ดี ก่อนที่จะเสียเงินไปแล้วไม่สามารถปลูกพืชใดๆ ได้เลย

และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ที่ดินในการทำเกษตรส่วนใหญ่ควรเป็นพื้นที่ราบ ไม่ควรเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เพราะจะทำให้รากของพืชเน่าได้ และถ้าเป็นพื้นที่ลาดชัน เวลารดน้ำต้นไม้จะทำให้น้ำไหลลงด้านล่างหมด แต่ถ้าจะปลูกไม้ป่าก็เป็นพื้นที่บริเวณเนินเขาได้ ทั้งนี้ พื้นที่ที่จะใช้ปลูกพืชต้องขึ้นอยู่กับประเภทของพืชที่จะปลูกด้วย

จะเห็นได้ว่าการเลือกที่ดินเพื่อทำการเกษตรนั้นควรจะดูว่าเราต้องการปลูกพืชแบบใด เน้นการจำหน่ายหรือบริโภค ต้องการเปลี่ยนที่ดินนั้นให้กลายเป็นพื้นที่ทางการเกษตรอย่างจริงจัง หรือแค่ต้องการทำเกษตรยามว่าง รวมไปถึงการสร้างเป้าหมายให้ชัดเจนสำหรับตัวเองว่าต้องการซื้อที่ดินนั้นเพื่อทำการเกษตรแบบใด และนั่นจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อที่ดินได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดและตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด.

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated