ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยหน่วยงานเศรษฐกิจ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) SME Development Bank เปิดตัว 2 แพ็กเกจของขวัญชิ้นใหญ่

1. ส่งเสริมและช่วยเหลือด้านที่ไม่ใช่การเงิน โดยการขยายศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) 23 แห่งทั่วประเทศ การจับมือธุรกิจชั้นนำระดับโลกเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูงให้แก่ SMEs การพัฒนา Platporm T-Goodtech เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยในการทำธุรกิจแบบ B2B
2. ส่งเสริมและช่วยเหลือด้านการเงินซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการร่างนำเสนอ โดยเพิ่มบริการ Mobile Unit รองรับ SMEs 1 ล้านรายที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อของ SME Development Bank การสนับสนุนกองทุนและสินเชื่ออาทิ Transformation Loan, Local Economy Loan และกองทุนสำหรับคนตัวเล็ก (Micro) ภายใต้ กรอบวงเงินรวมประมาณ 70,000 ล้านบาท ผ่านสถาบันการเงินของรัฐและธนาคารพาณิชย์เครือข่าย
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

ดร.สมคิด กล่าวว่ามาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SMEs สู่ยุค 4.0 นั้น รัฐบาลและหน่วยงานเศรษฐกิจภายใต้กำกับได้มุ่งส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEsในทุกระดับผ่านนโยบายและมาตรการด้านต่างๆ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งได้เน้นย้ำให้ผู้ดำเนินธุรกิจติดอาวุธด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อให้สามารถปรับตัวได้ในยุคที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลง

สำหรับในปี 2561 นั้นได้เห็นชอบร่วมกันในการจัดแพ็กเกจของขวัญซึ่งเป็นมาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SMEs ให้เข้าสู่ยุค 4.0 โดยจะเน้นการตอบสนองความต้องการและเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในทุกมิติ ซึ่งได้แบ่งมาตรการเป็น 2 ประเภท คือ

ประชุมหารือมาตราการพิเศษขับเคลื่อนSMEs สู่ยุค 4.0
ประชุมหารือมาตราการพิเศษขับเคลื่อนSMEs สู่ยุค 4.0

1.ส่งเสริมและช่วยเหลือด้านที่ไม่ใช่การเงิน โดยจะสนับสนุนตั้งแต่วิสาหกิจชุมชนจนถึงผู้ประกอบการระดับขนาดกลางทั้งด้านการผลิต การตลาด การส่งเสริมนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีนโยบายการยกระดับผู้ประกอบการฐานรากหญ้า พัฒนาสู่ SMEs รากแก้ว โดยจะดึงธุรกิจขนาดใหญ่มาช่วยสนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในแต่ละท้องถิ่นตามแนวทางประชารัฐให้เดินหน้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี อาทิ การยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนให้เชื่อมโยงกับภาคการท่องเที่ยวด้วยโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยทางานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ททท. และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) อพท. พร้อมผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงระดับโลก การบ่มเพาะเกษตรกรกว่าร้อยละ 30 ให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรแปรรูป เป็นต้น

ดร.สมคิด ร่วมถ่ายรูปหลังจากประชุมหารือเสร็จ
ดร.สมคิด ร่วมถ่ายรูปหลังจากประชุมหารือเสร็จ

2.ส่งเสริมและช่วยเหลือด้านการเงิน โดยจะขยายหน่วยบริการทางการเงิน (Mobile Unit) ในระดับจังหวัดให้ครบทุกอำเภอและเขตเศรษฐกิจพิเศษ 905 หน่วย และ สินเชื่อ Local Economy Loan เพื่อกลุ่ม SMEs ในระดับชุมชน อาทิ ธุรกิจเกษตรแปรรูป ธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการใหม่ที่มีนวัตกรรมที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุน ปรับปรุง และขยายกิจการ นอกจากนี้กองทุนฟื้นฟู MSMEs คนตัวเล็ก เพื่อให้ผู้ประกอบการในระดับรายจิ๋วและรายย่อย (Micro) ที่เข้าถึงสถาบันการเงินได้ยาก โดยจะรองรับผู้ประกอบการที่มีข้อจากัดทั้งมีเงินทุนไม่เพียงพอต่อการดำเนินหรือเริ่มต้นธุรกิจ รวมถึงผู้ที่ต้องการลงทุน ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

ดร.สมคิด ขณะกำลังประชุมถึงมาตราการขับเคลื่อนSMEs สู่ยุค 4.0
ดร.สมคิด ขณะกำลังประชุมถึงมาตราการขับเคลื่อนSMEs สู่ยุค 4.0

 ดร.สมคิด กล่าวทิ้งท้ายว่าอย่างไรก็ดี ทั้ง 2 แนวทางนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมและสานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นเจ้าภาพหลักในการประสานและขับเคลื่อน ซึ่งเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้ จะส่งผลให้ SMEs สามารถดาเนินธุรกิจได้ด้วยความราบรื่นพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวสอดคล้องกับทิศทางที่รัฐบาลได้วางเอาไว้ได้ ทั้งยังมีความมุ่งหวังอีกว่า เมื่อ SMEs ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และแนวคิดให้สอดรับ กับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกด้วยความเป็น 4.0 แล้ว อัตราการเจริญเติบโตของประเทศในปีหน้าต้องมีทิศทางที่สดในด้านอื่น ๆ ตามมาอย่างแน่นอน

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated