ล่องแก่งหนานมดแดง เปิดสกายวอล์คที่สร้างขึ้นในช่วงโควิดให้เที่ยวฟรี!
คุณโยธิน เขาไข่แก้ว ผู้สร้างล่องแก่งหนานมดแดง บอกว่าได้เปิดสกายวอล์คให้เที่ยวฟรี และมุ่งมั่นที่จะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน

เรื่องโดย : จตุพล เกษตรก้าวไกล

เดินทางล่องใต้เที่ยวนี้ได้พบว่าพี่น้องเกษตรกไทยตื่นตัวสุดๆ หมายมั่นปั้นมือว่าโควิดที่เกิดขึ้นจะจุดไฟเกษตรให้เจิดจ้า “โอกาสเกษตรเกิดขึ้นทันตาเห็น” อย่างที่ “ล่องแก่งหนานมดแดงพัทลุง” ได้ใช้โอกาสนี้เติมเต็มความสนุกให้กับล่องแก่งที่มีความแกร่งเป็นทุนเดิม ด้วยสกายวอล์คและสไลด์เนอร์บนยอดไม้

ทั้งหมดนี้คือความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นจาก “โยธิน เขาไข่แก้ว” เกษตรกรชาวสวนผู้ไม่ยอมหยุดนิ่ง ด้วยหวังว่ารูปแบบที่ทำขึ้นจะช่วยเพิ่มมูลค่าสวนเกษตรและสร้างชุมชนท่องเที่ยวให้เป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก

คุณโยธิน เขาไข่แก้ว เล่าว่า เมื่อก่อนพื้นที่ ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง อันเป็นที่ตั้งของล่องแก่งหนานมดแดง เป็นพื้นที่สีแดง สมัยเมื่อปี พ.ศ. 2516 ครอบครัวของตนได้มาพัฒนาพื้นที่ปลูกสวนผลไม้ทั้งทุเรียน มังคุด ลองกอง ฯลฯ แต่เมื่อประมาณปี 2553-2554 เกิดวาตภัย พายุดีเปรสชั่นพัดสวนผลไม้ล้มจนเป็นพื้นที่โล่ง เปิดพื้นที่กว้าง ตนจึงไปขอสินเชื่อจากธ.ก.ส.ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยราคาพิเศษ ที่ได้จัดให้กับผู้ประสบภัย จากเงินก้อนนั้นก็เริ่มมาก่อสร้างที่พัก พาชาวบ้านในชุมชนมาจัดกิจกรรมล่องแก่ง เพราะมีน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสไหลทั้งปี เหมาะแก่การล่องแก่ง ผจญภัยทางธรรมชาติ และด้วยความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวที่บอกกันปากต่อปาก และมาเที่ยวแล้วปลอดภัยก็ทำให้เกิดความมั่นใจ นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากมาย จึงเป็นที่มาของการเกิดรีสอร์ทอื่นๆ อีกนับสิบๆที่อยู่ใกล้เคียงกัน

นับว่าเป็นการจุดกระแสท่องเที่ยวชุมชนให้ทุกคนหันมามองครั้งใหญ่ ได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น จากตำบลที่ถูกมองข้ามด้วยเรื่องราวในทางลบในอดีตก็ค่อยๆกลับมาเป็นที่รู้จักและทางราชการเห็นความสำคัญจึงก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคถนนหนทางต่างๆจากถนน 2 เลน กลายเป็นถนน 4 เลน

อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิดทำให้ได้รับผลกระทบเสมือนจนพายุดีเปรสชั่นอีกรอบหนึ่ง จากพนักงานที่มีอยู่กว่า 100 คน ก็ต้องแบกภาระและคิดหาหนทางที่จะกลับมาใหม่ ด้วยการลงทุนสร้างสรรค์กิจกรรมขึ้นมา และนำพนักงานทุกคนมาช่วยกันสร้าง นั่นคือการก่อสร้างสกายวอล์คยาว 111 เมตร ลัดเลาะไปตามยอดไม้ ซึ่งก็คือสวนผลไม้ดั้งเดิมที่ยังคงอนุรักษ์ไว้

วันที่ทีมงานเกษตรก้าวไกลมาเยือน คุณโยธิน พาเดินชมสวนผลไม้ที่บัดนี้ทำเป็นวอล์คเวย์หรือสกายวอล์คด้วยความภาคภูมิใจ เพราะตลอดเส้นทางจะมีจุดเช็คอินเรียงรายอันเกิดขึ้นจากไอเดียสร้างสรรค์ของคุณโยธินและชาวคณะหนานมดแดง ที่พร้อมใจกันเป็น “สถาปนึก” โดยเน้นวัสดุในท้องถิ่นและวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน BCG ตามนโยบายของรัฐบาล (สามารถชมจุดเช็คอินไอเดียระดับโลกไม่แพ้ชาติใดได้เต็มๆจากคลิปประกอบข่าวนี้)

สำหรับสกายวอร์คนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเดินชมได้ฟรีๆ ยกเว้นสไลด์เดอร์บนยอดไม้ที่สร้างขึ้นก่อนหน้า เก็บค่าเล่นเพียง 50 บาท เพราะต้องใช้เครื่องสูบน้ำมาหมุนเวียนบนเครื่องเล่น แต่สามารถเล่นได้ทั้งวัน และเน้นความปลอดภัยสูงสุด 

คุณโยธิน ให้ความคิดเห็นเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตรบอกว่าเป็นโอกาสของเกษตรกร โดยตนเองนั้นยึดอาชีพการเกษตรมาโดยตลอด ซึ่งเดิมนั้นเคยรับราชการเป็นเกษตรอำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ แต่ได้ลาออกมาดูแลแม่ที่มีอายุมาก และจุดเปลี่ยนสำคัญมาจากการประสบปัญหาวาตภัยและได้เงินสินเชื่อจากธ.ก.ส. “ถ้าไม่มีธ.ก.ส.ในวันนั้นก็ไม่มีผมมายืนอยู่ในวันนี้” ดังที่ได้เล่าในเบื้องต้น ซึ่งตนอยากชี้ให้เห็นว่าทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ พื้นที่ตรงนี้พลิกจากสวนเกษตร สวนผลไม้ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว มาทำเป็นล่องแก่งเป็นการเพิ่มมูลค่าสวนเกษตรและสร้างสรรค์ให้เหมือนสวนสนุกในปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพัทลุง

คุณโยธิน กล่าวเชิญชวนเกษตรกรและพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จากประสบการณ์ของตนเองที่เริ่มต้นบุกเบิกมา เราสามารถเปลี่ยนพื้นที่ทำเกษตรมาดัดแปลงสร้างสรรค์เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ถึงเวลาที่เราจะต้องยกระดับทำการเกษตรและการท่องเที่ยวให้เป็นเรื่องเดียวกัน เช่น เราปลูกปาล์มมีสวนปาล์ม เราก็สามารถนำกล้วยไม้มาแปะไว้ที่ต้นปาล์ม แปลงสวนปาล์มเป็นสวนกล้วยไม้ และเมื่อกล้วยไม้เราสวยๆ แล้วก็ทำวอล์คเวย์ ให้คนเข้ามาชม หรือถ้าเป็นสวนยางก็สามารถปลูกเป็นสวนป่าทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้เช่นกัน และเราสามารถขาย “น้ำแข็ง” เปิดร้านกาแฟ หรือนำผลผลิตทางการเกษตรมาขายในสวน เราก็ไม่ต้องไปขายไกล เราสามารถนำมาขายให้กับนักท่องเที่ยวได้ มีคนมาซื้อถึงพื้นที่ หรือทำเป็นจุดเช็คอินสวยๆ อนาคตจะเกิดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาชีพเกษตรกรจึงมีโอกาสเป็นอย่างมาก

สำหรับ ล่องแก่งหนานมดแดง คุณโยธินบอกว่า โชคดีที่จุดนี้ล่องแก่งได้ทั้งปี เนื่องจากได้รับผลดีจากโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ มวลน้ำทั้ง 5 สาย จากเทือกเขาบรรทัด จะไหลมาเก็บไว้ที่อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส เมื่อถึงฤดูน้ำหลากน้ำก็จะไม่ท่วม ถึงฤดูแล้งน้ำก็จะปล่อยน้ำช่วยเหลือให้เกษตรกรที่อยู่ด้านล่าง เราก็ใช้น้ำในส่วนนี้เป็นพื้นที่ล่องแก่ง เป็นการ “เพิ่มมูลค่าน้ำ” ทำให้เกิดอาชีพสามารถเลี้ยงครอบครัวและสร้างงานให้ชุมชนได้

สิ่งสำคัญสถานที่แห่งนี้ ผมจะสร้างเหมือนสวนสาธารณะ ทุกคนเข้ามาเที่ยว มาเยือนได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ผมอยู่อีกไม่กี่ผืนเสื่อ ตายไปคงเอาอะไรไปไม่ได้ จึงมีความคิดว่าจะแปลงสินทรัพย์เป็นบุญ เห็นทุกคนมาเที่ยวแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส สนุกสนุกผมก็มีความสุข” คุณโยธิน กล่าวทิ้งท้ายและเชิญชวนมาเที่ยวได้ทั้งปี

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะมาล่องแก่งหนานมดแดง ซึ่งปัจจุบันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดพัทลุง ที่นอกจากจะมีล่องแก่ง มีสกายวอล์ก สไลด์เนอร์ ยังมีที่พัก มีร้านเครื่องดื่ม ร้านของของที่ระลึกของชุมชน ติดต่อได้ที่โทร. 081-0820206 และชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/zSKZsp4SRyE ขอบคุณ ธ.ก.ส.สาขาป่าพะยอม ที่แนะนำให้มาเที่ยวในครั้งนี้

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated