เรื่อง : จตุพล ยอดวงศ์พะเนา

นางพวงทอง ชินนาค อายุ 60 ปี เกษตรกรหัวขบวนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 6 บ้านเสม็ดน้อย ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ทำเกษตรผสมผสานแบบปลอดสารพิษ จนได้รับยกย่องเป็นปราชญ์ชาวบ้านผู้พลิกฟื้นแผ่นดินอันแห้งแล้ง ให้เป็นผืนแผ่นดินที่ชุ่มฉ่ำ ร่มรื่น ปลูกพืชหลากหลายชนิดไว้รอบบ้าน จนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้แห่งตำบลสลักได…

ปลูกทุกอย่างที่กิน...กินทุกอย่างที่ปลูก (ขอบคุณภาพนี้จากทีนิวส์)
ปลูกทุกอย่างที่กิน…กินทุกอย่างที่ปลูก (ขอบคุณภาพนี้จากทีนิวส์)
วันนี้มีนักเรียนมาศึกษาดูงาน
วันนี้มีนักเรียนมาศึกษาดูงาน

ในวันที่ทีมข่าว “เกษตรก้าวไกล” เดินทางไปเยือน ได้พบนางพวงทอง กำลังร่วมกับการศึกษานอกโรงเรียน อ.เมือง จ.สุรินทร์ จัดอบรมเด็กนักเรียนให้รู้เรื่องทำเกษตร “ทำน้ำหมักจาวเปลือก” และพาเด็กๆ จากโรงเรียนในตำบลสลักได มาเรียนรู้ที่บ้าน จากฐานการเรียนรู้ต่างๆ ที่สร้างขึ้น โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาสาธิตแบบจริงจัง หนึ่งในนั้นก็คือ นางพวงทอง ชินนาค ได้ถ่ายทอดความรู้เรื่องการทำเกษตรให้เด็กๆ

นางพวงทอง กล่าวว่าเคยได้รับรางวัล เป็นสตรีดีเด่น สาขาเกษตรกร เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2558 เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนภาวะผู้นำ และความมุ่งมั่นในอาชีพเกษตร อย่างเสียสละ จนเป็นที่ยอมรับของคนเมืองช้าง จ.สุรินทร์

ซุ้มเสาวรสขนาดใหญ่...ปลูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องงเที่ยวเชิงเกษตรไปในตัว
ซุ้มเสาวรสขนาดใหญ่…ปลูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรไปในตัว

เกษตรกรหัวขบวนธ.ก.ส. กล่าวอีกว่า จุดเด่นคือการได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต และดำเนินงานด้านเกษตรอินทรีย์ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ที่มีการบริหารจัดการน้ำ และการใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่  9 ตามนโยบายของอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ (นายเกษมศักดิ์ แสนโภชน์) เมื่อปี 2542 ได้พัฒนาการเกษตรฯ สืบทอดจากพ่อหอม ชินนาค ผู้เป็นพ่อ วัยเกือบ 100 ปี อย่างจริงจัง ทำการเกษตรแบบพื้นบ้าน ใส่ใจปรับปรุงดิน รู้จักผลิตปุ๋ยใช้เอง ตามแนวทางเกษตรอินทรีย์มาก่อน บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ จากมรดกของคุณพ่อหอม ต่อมามีการซื้อที่ดินขยายมาเป็น 20 ไร่ จาก 20 ไร่ ก็เพิ่มมาเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ มีพื้นที่เพิ่มเป็น 100 ไร่ ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการอย่างดี โดยมีสามีอดีตปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลตรึม อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เพิ่งเกษียณจากราชการ เป็นกำลังช่วยผลักดัน

น้องเฟิร์น-พัชริกา ชินนาค กำลังเชิญชวนให้มาเยี่ยมชมแปลงเกษตรของคุณแม่...
น้องเฟิร์น-พัชริกา ชินนาค กำลังเชิญชวนให้มาเยี่ยมชมแปลงเกษตรของคุณแม่…

นางพวงทอง มีลูกสาวคนเก่ง ชื่อน้องเฟิร์น-พัชริกา ชินนาค เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศตุรกี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนสิรินธร อ.เมือง จ.สุรินทร์ ในวันที่เราเดินทางไปเยี่ยมที่ฟาร์มบ้านเสม็ดน้อย นางพวงทอง พร้อมน้องเฟิร์น ลูกสาว พาทีมข่าวเกษตรก้าวไกล เดินเยี่ยมแปลงนา ที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีการขุดเป็นบ่อน้ำรอบที่นาเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ปลูกข้าวเต็มผืนนา พร้อมกล้วยหลากหลายสายพันธุ์ ไว้กินไว้ขาย แถมยังนำกล้วยสุกมาฝากทีมงานให้รับประทานอีกด้วย

วันนั้นน้องเฟิร์น ลูกสาวคนสวยยังรับเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษของเกษตรก้าวไกล เชิญชวนเป็นภาษาอังกฤษ ให้ชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมฟาร์มเกษตรของบิดา มารดา สร้างความฮือฮาให้กับผู้พบเห็น ต่างชมเชยว่าลูกเกษตรกรยุค 4.0 เก่งแบบนี้เอง https://web.facebook.com/kasetkaoklai/videos/2035898870062144/ นางพวงทอง ยังกล่าวอีกว่า ลูกชายคนโตก็ให้ไปเรียนด้านการเกษตร ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ จบมาจะนำความรู้มาพัฒนาต่อยอดด้านการเกษตรที่แม่ปูทางไว้ให้แล้ว

บ้านหลังนี้ทำเป็นสถานที่บรรยายให้กับผู้มาศึกษาดูงาน
บ้านหลังนี้ทำเป็นสถานที่บรรยายให้กับผู้มาศึกษาดูงาน

ถามนางพวงทองว่า ทำการเกษตรอย่างไรให้อยู่รอดได้ นางพวงทองตอบว่า ประการแรก จะต้องนำผลผลิตมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า “ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก…มีเหลือก็นำไปขายและแปรรูปเพิ่มมูลค่า” ประการต่อมาจะต้องสร้างเครือข่าย มีกลุ่ม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ “เมื่อครอบครัวตนเองอยู่ได้แล้วก็ต้องให้ครอบครัวคนอื่นอยู่ได้…ประเทศชาติก็จะอยู่ได้” ทุกอย่างต้องพึ่งพาตนเอง ต้องต่อสู้ด้วยลำแข้งของตนเอง

“ทำเกษตรไม่มีวันจน แต่ต้องทำจริง และทำเกษตรแบบผสมผสาน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง…ดิฉันเองที่มีกินมีใช้ก็ต้องขยันประหยัดซื่อสัตย์อดทน จัดการวางแผนงานวางแผนชีวิตให้เป็น จัดการเงินให้เป็น เงินที่ใช้เป็นทุนก็ได้มาจาก ธ.ก.ส. แต่ได้มาแล้วก็ต้องใช้เงินให้เป็นและจ่ายคืนให้ตรงเวลา…ทุกวันนี้คนที่ไม่สำเร็จ เพราะทำเกษตรไม่จริง ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว อย่างมาศึกษาดูงานไม่ได้ตั้งใจที่จะเรียนรู้ บางคนเหมือนถูกจ้างให้มา…อย่างนี้อย่ามาดีกว่า” นางพวงทอง ให้ข้อคิดอย่างตรงไปตรงมา

บ้านของเกษตรกร-นางพวงทอง ชินนาค สวยงามน่าอยู่ทีเดียว
บ้านของเกษตรกร-นางพวงทอง ชินนาค สวยงามน่าอยู่ทีเดียว

สำหรับเงินรายได้จากการทำเกษตร นอกจะขายผลผลิตจำพวกพืชผลต่างๆ โดยเฉพาะทำนาข้าวหลายสิบไร่แล้ว ยังเลี้ยงวัวหลายสิบตัว ทุกอย่างยึดหลักเกษตรผสมผสานและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เช่น นำขี้วัวมาเป็นปุ๋ย นำฟางข้าวมาเป็นอาหารให้วัว เป็นต้น

“ทำเกษตรไม่มีวันจน มีแต่รวยกับรวย…ขอให้ทำให้จริงเท่านั้น” นางพวงทอง กล่าวในที่สุด

หมายเหตุ : คำว่า “รวย” ในที่นี่ไม่ได้หมายความว่ารวยเงินทองเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงความสำเร็จในการใช้ชีวิต

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated