ร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ยั่งยืนของโรงเรียน 195 แห่ง ใน 3 จังหวัดเขตพื้นที่การศึกษาที่ 14
ซีพีเอฟ ร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ยั่งยืนของโรงเรียน 195 แห่ง ใน 3 จังหวัดเขตพื้นที่การศึกษาที่ 14

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่อาสาสมัครผู้นำ (School Partner) ของบริษัทฯ จำนวน 65 คน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาและร่วมทำงานกับผู้บริหารโรงเรียน ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและการส่งเสริมวิชาชีพ ให้สอดคล้องตามความถนัดของเยาวชนและรองรับความต้องการของชุมชน ร่วมพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ยั่งยืนของโรงเรียน 195 แห่ง ใน 3 จังหวัดเขตพื้นที่การศึกษาที่ 14 ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิและบุรีรัมย์   

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข
นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข(คนกลาง) ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร ซีพีเอฟ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่อาสาสมัครผู้นำ

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่อาสาสมัครผู้นำ กล่าวว่า อาสาสมัครผู้นำจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์และขับเคลื่อนโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐกลุ่มการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ ขณะเดียวกันจะเป็นการสร้างคนดี คนเก่งให้กับสังคมไทย เพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทยในระยะยาว

อาสาสมัครผู้นำทุกคนล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ ในการสร้างความเท่าเทียมกันทางการศึกษาของเด็กไทย และยังเป็นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของไทยทั้งระบบให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ” นายสุขวัฒน์ กล่าว

นายเอนก บุญหนุน ประธานบริหารโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ของ ซีพีเอฟ กล่าวว่า การดำเนินโครงการที่ผ่านมาบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างดี และยังมีกิจกรรมบางส่วนที่อยู่ระหว่างดำเนินการและจะแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้ ซึ่งกิจกรรมหลักในโครงการฯ ประกอบด้วย โครงการด้านเกษตรกรรม  กิจกรรมนอกเวลา วิชาชีพธุรกิจ พัฒนาหลักสูตร และการอบรมครู รวมถึงการต่อยอดสอนการใช้งานอุปกรณ์และสื่อ ICT ของทรูปลูกปัญญา โดยอาสาสมัครผู้นำที่รับผิดชอบแต่ละโรงเรียนจะติดตามและประเมินผลอย่างใกล้ชิดให้โครงการสัมฤทธิ์ผลตามแผนที่วางไว้

นักเรัยนเข้าร่วมกิจกรรม เพิ่มทักษะความรู้ด้าน และทักษะในด้านต่างๆ
นักเรัยนเข้าร่วมกิจกรรม เพิ่มทักษะความรู้ด้าน และทักษะในด้านต่างๆ

ในปีนี้ มีการคัดเลือกอาสาสมัครผู้นำดีเด่น โดยพิจารณาจากกิจกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบที่สนับสนุนเด็กให้มีพัฒนาการ ความรู้ทางวิชาการและทักษะในด้านต่างๆ สามารถสั่งสมเป็นประสบการณ์และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่องานสร้างอาชีพได้ โดยเฉพาะ ด้านเกษตรกรรม (เลี้ยงไก่ไข่ เพาะเห็ดนางฟ้า) กิจกรรมนอกเวลา (มัคคุเทศก์น้อย) วิชาชีพธุรกิจ (สร้างธุรกิจเถ้าแก่น้อย) พัฒนาหลักสูตร

สำหรับโครงการและโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย 1.โครงการกิจกรรมนอกเวลา : โครงการมัคคุเทศก์น้อย โรงเรียนตำบลบ้านโพธิ์ จังหวัดนครราชสีมา ให้นักเรียนเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ด้วยการสนับสนุนให้มีการเรียนการสอนโดยครูต่างชาติ และฝึกฝนให้เด็กแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นของตนเองได้  2.โครงการเกษตรกรรม : โครงการเห็ดนางฟ้า โรงเรียนธงชัยเหนือวิทยา จังหวัดนครราชสีมา โครงการช่วยเด็กให้มีความรู้และความสามารถในการปลูกและแปรรูปเห็ดนางฟ้า ขายในชุมชน และจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางด้านอาชีพการปลูกเห็ดในชุมชน

3.โครงการพัฒนาหลักสูตรและอบรมครู : โครงการ 7 Habits พัฒนาอุปนิสัยภาวะผู้นำ โดยเน้นการถ่ายทอดให้ครู และครูนำไปสอนนักเรียน ทำให้เด็กมีภาวะผู้นำ มีความรับผิดชอบ และรู้จักหน้าที่ และ 4.โครงการวิชาชีพธุรกิจ : โครงการหมี่โคราชสร้างเถ้าแก่น้อย โรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างโอกาสให้กับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาและนักเรียนที่บกพร่องทางการได้ยิน มีอาชีพมั่นคง หลังจากจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

นายเอนก กล่าวต่อไปว่า ผู้นำอาสาสมัครจะทำงานร่วมกับผู้บริหารโรงเรียนในการพัฒนาการศึกษาและการจัดกิจกรรมอย่างเหมาะสม โดยโรงเรียนจะได้รับงบประมาณสนับสนุนตามแผนงาน  โดยการแผนพัฒนาจะต้องตอบโจทย์ 3 ประเด็น คือ ต้องต่อยอดการศึกษาของเด็ก ต้องมีความยั่งยืน และต้องทำให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ภาครัฐ เอกชน และประชาคม นับเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือที่ยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

ซีพีเอฟ ร่วมพัฒนาการศึกษา 195 โรงเรียน ผ่านโครงการคอนเน็กซ์ อีดี
ซีพีเอฟ ร่วมพัฒนาการศึกษา 195 โรงเรียน ผ่านโครงการคอนเน็กซ์ อีดี

ซีพีเอฟ เป็น 1 ใน 12 ภาคเอกชนชั้นนำ ที่ให้การสนับสนุนโครงการ Connext Ed โดยผู้บริหารระดับสูงของ12 องค์กรจะทำหน้าทีเป็น School Sponsors หรือเป็นผู้สนับสนุนหลัก ให้คำปรึกษาด้านยุทธศาสตร์พร้อมงบประมาณ ให้แก่ อาสาสมัครผู้นำ ซึ่งคัดเลือกจากบุคลากรในองค์กรที่มีอุดมการณ์ มีจิตสาธารณะ และผ่านการอบรมหลักสูตรผู้นำ รวม 1,000 คน เพื่อทำงานร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาในการวางแผนพัฒนาโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการประชารัฐ 3,342 แห่ง ทั่วประเทศ และจะขยายครบ 7,424 โรงเรียนในทุกตำบล ทั่วประเทศภายในปี 2561.

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated