เรื่อง/ภาพ : เบียร์ เกษตรก้าวไกล
“คำว่าพอเพียงคือต้องพอแค่ไหนคุณรู้ไหม?”คำถามง่ายๆ ชวนคิดจากลุงประทีป มายิ้ม ชายวัยกลางคนที่หลายคนรู้จักเขาในฐานะ “ปราชญ์เกษตรต้นแบบ” และมีตำแหน่งทางสังคมคือนายกสมาคมการค้ากุ้งก้ามแดง ผู้ที่น้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ และส่งต่อองค์ความรู้การทำเกษตรชีววิถี ด้วยหวังให้เกษตรกรไทยมีความเป็นอยู่ที่พอดี พอเพียง และมีความสุข
![คุณประทีป มายิ้ม นายกสมาคมกุ้งก้ามแดง](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/6-1-500x281.jpg)
แน่นอนว่า เส้นทางชีวิตของลุงประทีป ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะมีวันนี้ทีพอดี ต้องปากกัดตีนถีบ ทำงานเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็กชาย หลังจบการศึกษาชั้น ป.7 นอกจากเรียนหนังสือ ทำไร่ทำนาแล้ว ยังมีอาชีพเสริมคือการเป็นสัปเหร่อ ในวัยเพียง 13 ปี
ต่อมาในวัย 19 ปี ลุงประทีปได้เดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย ตามโครงการแลกเปลี่ยนไทย-ซาอุฯ ที่มีการส่งนักศึกษาที่มีความรู้ด้านการเกษตรเพื่อไปปลูกต้นไม้ ปลูกข้าว และไม้ดอกไม้ประดับอยู่ท่ามกลางทะเลทราย
![คุณประทีป มายิ้ม พาชมสวนในพื้นที่ 1ไร่](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/7-1-500x279.jpg)
ลุงประทีป เล่าว่า “การใช้ชีวิตในต่างแดน เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็ท้าทาย คือ ผมชอบเรื่องการทำเกษตร เรียนก็เรียนด้านเกษตร การไปอยู่ที่โน่นเป็นการเปิดหูเปิดตาเรามาก เพราะเขามีทุกอย่างที่บ้านเราไม่มี ส่วนเราเองก็มีทุกอย่างที่เขาอยากมีเหมือนกัน…ตอนที่อยู่ที่โน่นหน้าที่หลักผมคือการปลูกต้นไม้ของพื้นที่สนามบินพื้นที่ 100,000 กว่าไร่ให้กลายเป็นสีเขียว ซึ่งโดยส่วนตัวผมมีความถนัดเรื่องไม้ดอกไม้ประดับ ปลูกข้าว จึงได้รับหน้าที่การจัดสวนหย่อม”
![ทำประมงด้วยการเลี้ยงกุ้งแบบพอเพียง](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/1-3-500x243.jpg)
ช่วงเวลา 4 ปีเศษในต่างแดน ถือเป็นบททดสอบที่ยากพอควร สำหรับเด็กหนุ่มในวันนั้น แต่ทว่าประสบการณ์ที่ได้ สามารถนำมาต่อยอดและปรับใช้ในรูปแบบเรษฐกิจพอเพียงได้ จนเกิดเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ชีววิถเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สวนพออยู่พอกินบ้านมายิ้ม” ใช้พื้นที่ 1 ไร่ มาทำประโยชน์ได้คุ้มค่าจนคนต้องมาดูงานกันไม่ขาดสาย ทั้งปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ทำประมง โดยแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ คือ
![เลี้ยงแบบชีววิถี](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/4-2-500x282.jpg)
ฐานที่ 1 : การทำน้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ แบ่งเนื้อที่เล็กๆ ไว้ผลิตปุ๋ยน้ำหมักจากพืชผัก เศษอาหารที่เหลือจากการกินและจำหน่าย
ฐานที่ 2 : พืชผัก ถ้าปลูกต้นไม้อย่างปลูกพญาสัตบรรณก็เอาแก้วมังกรมาเลื้อยเกาะไว้ด้วยก็จะได้กินแก้วมังกรด้วย ปลูกมะนาวก็ปลูกพริกด้วยจะได้มีพริกกิน นอกจากมีแค่มะนาวกินอย่างเดียว
![เลี้ยงไก่ก็จะมีไข่ไว้กิน แล้วให้ไก่กินเศษอาหาร](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/9-1-500x281.jpg)
ฐานที่ 3 : สัตว์ปีก เลี้ยงไก่ก็จะมีไข่ไว้กิน แล้วให้ไก่กินเศษอาหารของเรา ก็ไม่มีต้นทุนในการซื้ออาหารไก่ จากนั้นก็ได้มูลไก่ไปใส่ให้ต้นไม้กินด้วย
ฐานที่ 4 : ประมง เป็นฐานที่แสดงให้เห็นการทำประมงด้วยการเลี้ยงกุ้งแบบพอเพียง เลี้ยงแบบชีววิถี เช่น การเลี้ยงกุ้งในนาข้าว ซึ่งมีการเลี้ยงสัตว์ไว้หลายชนิดด้วยกัน เช่น กุ้งฝอย กุ้งขาว กุ้งก้ามกราม กุ้งก้ามแดง
![พืชผัก](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/12-500x281.jpg)
ซึ่งสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างก็คือการมีรายได้หมุนเวียนภายในศูนย์ฯ นอกจากการขายกุ้งก้ามแดงแล้ว ยังมีรายได้จากการขายพืชพันธุ์ผักนานาชนิดภายในสวน รวมถึงการสร้างเครือข่ายกุ้งก้ามแดงที่แข็งแรงซึ่งเป็นการต่อยอดรายได้ที่มั่นคง ถึง 400,000 บาทต่อปี
โดยลุงประทีปเริ่มต้นเลี้ยง จากกุ้งที่ได้เป็นของฝากจากลูกสะใภ้เพียง 4 ตัว ตอนแรกคิดว่าเป็นกุ้งสวยงาม เลยเอามาปล่อยในอ่างเลี้ยงปลาหางนกยูง เลี้ยงแบบตามมีตามเกิด ไม่ได้ให้อาหารอะไรเลย แต่สังเกตเห็นสาหร่ายหางกระรอกในอ่างเลี้ยงปลาค่อยๆ ลดลง แสดงว่ามันกินเป็นอาหารได้
![ใช้แหนอย่างเดียว เลี้ยงปล่อยไว้ในบ่อ](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/2-4-500x278.jpg)
จากเริ่มต้นด้วยลูกกุ้งแค่ 4 ตัว เลี้ยงเล่นๆ สนุกแค่ปีเดียว ลูกกุ้งมีมากมาย เลยแบ่งส่วนหนึ่ง 500 ตัวลงแปลงนาสาธิตของศูนย์เรียนรู้ฯ พื้นที่ขนาด กว้าง 3 เมตร ยาว 5 เมตร ขังน้ำลึกประมาณ 1 ฝ่ามือ ปลูกข้าวเต็มรกไปหมด กั้นตาข่ายโดยรอบ เพื่อป้องกันนก หนู สัตว์แปลกปลอมเล็ดลอดเข้าไปจับกุ้ง
![ใช้แหนอย่างเดียว เลี้ยงปล่อยไว้ในบ่อ](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/5-500x284.jpg)
ลุงประทีปสรุปให้ฟังง่ายๆ ก็คือ “ยิ่งรก ยิ่งรอด” นอกจากจะรกด้วยการปลูกข้าวและต้นไม้น้ำสารพัดชนิดแล้ว ยังเอาท่อประปา (ท่อพีวีซี) ตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 1 คืบ มาทำเป็นที่หลบซ่อนให้กุ้งด้วย…ส่วนเรื่องอาหารเลี้ยง ไม่เคยควักเงินซื้อ ใช้แต่แหนอย่างเดียว เลี้ยงปล่อยไว้อย่างนั้น คอยเติมแหนกับดูแลเติมน้ำไม่ให้แห้ง…1 ปีครึ่งผ่านไป ได้กุ้งขนาด 2 ตัว 1 กก. เชฟโรงแรมแชงกรี-ลาที่พัทยารู้ข่าวเลยมาติดต่อขอซื้อ
ซึ่งศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้ ยังพร้อมและยินดีต้อนรับ ให้คำแนะนำการเลี้ยงกุ้งก้ามแดงชีววิถีให้สามารถพัฒนาสู่การเป็นกุ้งเนื้อเพื่อส่งออก เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง “ใครที่มาดูงานกลับไปยิ้มได้ทุกคน” สมกับที่ชื่อสวนมายิ้มจริงๆ
ต้องบอกว่าการเดินทางเพื่อหาคำตอบให้ชีวิตที่พอดีนั้นไม่ง่ายเลย กว่าจะผ่านถนนสายนี้ไปได้ ต้องวัดใจพอสมควร ทั้งอุปสรรคขวากหนามต่างมาทดสอบความแกร่งในใจ แต่วันนี้ลุงประทีปไม่ได้สู้เพียงลำพัง ยังมียานพาหนะที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ อย่าง “ฟอร์ดเรนเจอร์” ทุกการเดินทางที่ยากลำบาก ฟอร์ดจะเป็นเพื่อนพันธุ์แกร่งที่พาไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย
![ลุงประทีปโชว์จับกุ้งก้ามแดงให้คณะสื่อมวลชนได้เห็น](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/8-1-500x281.jpg)
การเริ่มออกเดินทางหาคำตอบของเกษตรกรหัวใจแกร่งท่านนี้ มีหลายบททดสอบที่ต้องเจอ แต่การจะผ่านมาได้นั้น ต้องใช้เวลา ทว่าในวันข้างหน้าหากต้องเจออีกกี่ปัญหา ไม่ว่าจะถนนสายไหน ลุงประทีป มายิ้ม ก็จะผ่านไปได้ด้วยหัวใจที่พอดี บนทางเดินที่พอเพียง
![ลุงประทีป มายิ้ม กับ ฟอร์ดเรนเจอร์ แกร่งทุกงานเกษตร](https://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/12/10-500x282.jpg)