โรคราสนิมขาวในผักบุ้งจีน...รับมืออย่างไรดี? (ง่ายๆ ทำเองได้)
ปลูกผักบุ้งก็ไม่พ้นโรค....แต่รับมือได้

กรมวิชาการเกษตร ชี้สภาพอากาศชื้น ฝนตกชุก และมีหมอกในตอนเช้า เสี่ยงเกิดสูง โดยเฉพาะโรคนี้ชอบผักบุ้งจีนเป็นพิเศษ แนะเกษตรกรผู้ปลูกให้เฝ้าระวัง สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของผักบุ้งจีน

อาการเริ่มแรก…พบจุดสีเหลืองซีดที่ด้านบนของใบ ใต้ใบมีตุ่มนูนสีขาวขนาดเล็ก หรือมีปื้นสีขาวขนาดใหญ่โป่งพองออกเป็นปุ่มปม พบได้ทั้งที่ก้านใบและลำต้น หากระบาดรุนแรง แผลจะไหม้ ใบแห้ง และร่วงหล่น อาจพบปุ่มปมหรือบวมตามข้อและโคนต้น ใบบิดเบี้ยว หรือหยิกเป็นคลื่น

วิธีรับมือ…ให้เกษตรกรหมั่นทำความสะอาดกำจัดวัชพืชและเก็บเศษซากพืชส่วนที่เป็นโรคออกไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ สำหรับแปลงที่เกิดโรคระบาดควรงดการให้น้ำแบบพ่นฝอย และไม่ควรให้น้ำ จนชื้นแฉะเกินไป อีกทั้งเกษตรกรควรตรวจใบล่างของผักบุ้งจีนในแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบโรค ให้ตัดส่วนที่เป็นโรคไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก

กรณีที่โรคยังระบาดอยู่ ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารเมทาแลกซิล 25% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สลับกับสารแมนโคเซบ 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20-30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นให้ทั่วด้านใต้ใบ และพ่นทุก 7 วัน

หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตผักบุ้งจีนเรียบร้อยแล้ว ให้เกษตรกรเก็บเศษซากพืชส่วนที่หลงเหลือในแปลงไปเผาทำลาย นอกแปลงปลูกทันที

สิ่งสำคัญก่อนปลูกผักบุ้งจีนในฤดูถัดไป…ควรเตรียมดินด้วยการไถกลบพลิกหน้าดินให้ลึก ให้ดินได้ตากแดดนานหลายๆ วัน และไถกลบพลิกหน้าดินซ้ำอีกครั้ง เพื่อทำลายเชื้อสาเหตุของโรคและป้องกันการสะสมของเชื้อสาเหตุของโรคในดิน จากนั้นหว่านปูนขาวปรับสภาพดิน อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ และให้ไถกลบอีกครั้งทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนปลูก วิธีนี้จะสามารถช่วยลดการเกิดโรคราสนิมขาวได้

สำหรับพื้นที่ระบาดรุนแรง…เกษตรกรควรปลูกพืชชนิดอื่นสลับหมุนเวียนอย่างน้อย 2-3 ปี และควรเลือกใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่ปราศจากโรค อีกทั้งควรคลุกเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งจีนก่อนปลูกด้วยสารเมทาแลกซิล 35% ดีเอส อัตรา 7 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม โดยไม่ควรหว่านเมล็ดพันธุ์แน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความชื้นสูง อากาศไม่ถ่ายเท และเกิดการระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว

(ข่าวโดย: อังคณา  ว่องประสพสุข : กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมวิชาการเกษตร : กรกฎาคม 2559)

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated