กรมชลประทาน จัดการประชุมปัจฉิมนิเทศและกิจกรรมสื่อสัญจร “โครงการศึกษาความเหมาะสมการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้ง ลุ่มน้ำหนองหาร ลุ่มน้ำน้ำพุง และลุ่มน้ำก่ำ จังหวัดสกลนคร–นครพนม” เมื่อวันที่ 16–17 กันยายน 2568 โดยในวันที่ 16 กันยายน จัดขึ้นที่ห้องประชุมศรีสกล โรงแรมเดอะมาเจสติค จังหวัดสกลนคร มีนายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธาน และวันที่ 17 กันยายน จัดที่ห้องยามดี เอ โรงแรมเวลาดี จังหวัดนครพนม มีนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน โดยมีนายปรัชญา ฉายวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผน) และนายฉัตรดำรงค์ หงษ์บุญมี ผู้อำนวยการส่วนวางโครงการที่ 2 สำนักบริหารโครงการ เป็นผู้แทนกรมชลประทาน ซึ่งการประชุมทั้งสองเวที ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมอย่างคับคั่งนายปรัชญาฉายวัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผน) กรมชลประทาน กล่าวว่า สำหรับการโครงการศึกษาฯ มีเป้าหมายเพื่อจัดทำแผนหลัก และการศึกษาความเหมาะสม ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ตลอดจนจัดทำการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อรองรับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กว่า 3,500 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมลุ่มน้ำน้ำพุง(ร้อยละ 47) ลุ่มน้ำก่ำ(ร้อยละ 53) ของจังหวัดสกลนครและจังหวัดนครพนม


เกษตรก้าวไกลLIVE-ประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้ง ลุ่มน้ำหนองหาร ลุ่มน้ำน้ำพุง และลุ่มน้ำก่ำ จังหวัดสกลนคร–นครพน https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/834716319226496
เกษตรก้าวไกลLIVE-กรมชลประทานลงพื้นที่ประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง สกลนคร พื้นทิ่https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/706907159074583
เกษตรก้าวไกลLIVE-ลงพื้นที่โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลำน้ำก่ำตอนบนด้านท้ายประตูระบายน้ำสุรัสวดี https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/1338301524752581\

การประชุมครั้งนี้นับได้ว่าเป็น เวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการศึกษาและจัดทำแผนงาน ตอบโจทย์ปัญหาของพื้นที่อย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรมชลประทานที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ จากแผนหลักการพัฒนาลุ่มน้ำ ได้คัดเลือกโครงการที่มีความสำคัญเร่งด่วนจำนวน 2 กลุ่มโครงการ ได้แก่
1.โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอเต่างอย และอำเภอโคกศรีสุพรรณ มีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่
• โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำห้วยหวด
• โครงการพัฒนาระบบอ่างพวง(ตามแผนงานของกรมชลประทาน)
• โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านเต่างอย พร้อมขุดลอกลำน้ำพุง
• โครงการพัฒนาพื้นที่รับประโยชน์ใหม่ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ สนับสนุนการเกษตร เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และเสริมความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่


2.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลำน้ำก่ำตอนบน มีพื้นที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำน้ำพุงและลุ่มน้ำก่ำ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ อ.เมืองสกล อ.โคกศรีสุพรรณ และ อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร และ อ.วังยาง จ.นครพนม ประกอบด้วย
• โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลำน้ำก่ำตอนบนด้านท้ายประตูระบายน้ำสุรัสวดี ถึง ประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง
• โครงการปรับปรุงประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง ซึ่งจะช่วยระบายน้ำได้คล่องตัวขึ้น ลดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในฤดูฝน และเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง
นอกจากนี้ คณะสื่อมวลชนยังได้ลงพื้นที่ประตูระบายน้ำสุรัสวดี อำเภอโพนนาแก้ว และประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร เพื่อรับฟังรายละเอียดผลการศึกษา แนวทางพัฒนา และการประเมินความเหมาะสมทั้งด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ด้านนายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เผยว่า ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งเป็นปัญหาหลักที่จังหวัดประสบมาโดยตลอด โครงการบริหารจัดการน้ำจากกรมชลประทานจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค รองผู้ว่าฯ กล่าวถึงเหตุน้ำท่วมใหญ่ในปี 2560 ซึ่งเกิดจากการจัดการน้ำที่ยังไม่สมบูรณ์ และถือเป็นโอกาสดีที่
กรมชลประทานเข้ามาศึกษาโครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำหนองหาร ลุ่มน้ำน้ำพุง และลุ่มน้ำก่ำ โดยมีโครงการย่อยถึง 26 โครงการภายใต้งบประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี 2 โครงการเร่งด่วนในพื้นที่เต่างอยและท้ายประตูน้ำสุรัสวดี ที่จะช่วยบรรเทาน้ำท่วมในตัวเมืองและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งได้ด้วย

นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า จังหวัดนครพนมเผชิญปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งเป็นประจำ เนื่องจากมี ลำน้ำก่ำ ซึ่งรับน้ำจากหนองหาน จังหวัดสกลนคร ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่อำเภอธาตุพนม ในฤดูฝนน้ำจะล้นหลาก แต่ในฤดูแล้งกลับขาดแคลน ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร กรมชลประทานจึงได้วาง แผนพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ โดยมุ่งเน้นการขุดลอกและก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อช่วยบรรเทาทั้งปัญหาอุทกภัยในฤดูน้ำหลาก และเพิ่มปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง โดยสามารถสูบน้ำจากแม่น้ำโขงกลับมาใช้ได้อีกด้วย

นายนิพนธ์ มุลเมืองแสน ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการลุ่มน้ำโขง กล่าวถึงโครงการศึกษาความเหมาะสมการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้ง ลุ่มน้ำหนองหาร ลุ่มน้ำน้ำพุง และลุ่มน้ำก่ำ ว่าเป็นการศึกษาที่สมบูรณ์แบบและครอบคลุมทั้งระบบต้นน้ำและปลายน้ำ ซึ่งพื้นที่นี้มี เขื่อนน้ำพุง ไหลลงสู่หนองหาน และเชื่อมโยงไปถึงแม่น้ำโขง นายนิพนธ์ระบุว่า แม้น้ำท่วมใหญ่ในปี 2560 ทำให้เห็นการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะความคดเคี้ยวของลำน้ำก่ำที่ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างช้าๆ โครงการฯ ได้หารือกับชุมชนจนได้ข้อสรุปที่ได้รับการยอมรับในพื้นที่ แต่ยังมีโจทย์สำคัญที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน คือการ จัดสรรงบประมาณ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาหลายปี รวมถึงการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งอยากให้กรมชลประทานพิจารณา การขยายลำน้ำ ตั้งแต่ประตูสุรัสวดีไปจนถึงประตูหนองบึง เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังมีความท้าทายในเรื่องการเวนคืนที่ดินและการทำความเข้าใจกับชุมชน สำหรับแผนโครงการฯ แบ่งแผนการทำงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น 5 ปี, ระยะกลาง 10 ปี และระยะยาว 20 ปี โดยคาดว่าการดำเนินการในระยะสั้น(5ปี)จะช่วยลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากโครงการเหล่านี้สามารถดำเนินการได้จนแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกักและระบายน้ำ เสริมความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภค–บริโภคและการเกษตร ลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและภัยแล้งซ้ำซาก และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสกลนครและนครพนมอย่างยั่งยืน

กรมชลประทานจึงเดินหน้าศึกษาและวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วม–น้ำแล้ง อย่างบูรณาการตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ สร้างความมั่นคงด้านน้ำ สนับสนุนภาคเกษตร และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง