นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่เปิดให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนทุกปี ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทำให้สามารถวางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และจัดทำโครงการมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้ อีกทั้งทางราชการจะได้รู้ข้อมูลการเพาะปลูกของแต่ละปีว่า เกษตรกรปลูกพืชชนิดใด และพื้นที่เท่าใด สำหรับเป็นข้อมูลประเมินภาวะผลผลิตของแต่ละปี สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว จะต้องทำการปรับปรุงข้อมูลในทะเบียนเกษตรกรทุกครั้ง เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่หลังการเพาะปลูก 15 วัน กรณีไม้ผล/ พืชยืนต้น ให้แจ้งปรับปรุงเป็นประจำทุกปี โดยสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ตลอดปี ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของแต่ละชนิดพืช

สำหรับเงื่อนไขผู้ที่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ ต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ประกอบการเกษตร หรือเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในผลผลิต โดยมีผู้แทนมาขึ้นทะเบียนในนามครัวเรือนได้เพียง 1 คน หากเป็นนิติบุคคล ที่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบการเกษตร สามารถมอบอำนาจให้ผู้แทนเป็นผู้ขอขึ้นทะเบียนได้ โดยผู้ขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรต้องบรรลุนิติภาวะ และมีสัญชาติไทย

โดยจำนวนเนื้อที่ขั้นต่ำที่รับขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร มีดังนี้ ข้าว พืชไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น นาเกลือตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป ผัก สมุนไพร ไม้ดอก ไม้ประดับตั้งแต่ 1 งานขึ้นไป ปลูกพืชในโรงเรือนตั้งแต่ 72 ตรม. ขึ้นไป เพาะเห็ด ทำผักงอก ตั้งแต่ 30 ตร.ม.ขึ้นไป ผึ้งพันธุ์ ผึ้งโพรง อย่างใด อย่างหนึ่ง จำนวนตั้งแต่ 10 รัง ขึ้นไป ชันโรง 20 รัง ขึ้นไป ครั่ง 5 ต้น (ไม้ยืนต้น) ขึ้นไป และไส้เดือน จิ้งหรีด ด้วงสาคู อย่างใด อย่างหนึ่ง ตั้งแต่ 30 ตร.ม. ขึ้นไป

เกษตรกรรายย่อย ที่มีเนื้อที่การเพาะปลูกขั้นต่ำแต่ละชนิดไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ โดยเกษตรกรต้องยืนยันว่ามีรายได้ที่คาดว่าจะได้รับจากการประกอบการเกษตรตามที่แจ้งขึ้นทะเบียนดังกล่าวในรอบปีเพาะปลูกนั้นๆ เกิน 8,000 บาท ขึ้นไป

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หรือดำเนินการด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเกษตรกรรายใหม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบ e-Form ที่เว็บไซต์ efarmer.doae.go.th เมื่อผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 วันทำการแล้ว เกษตรกรจะสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรและติดตามผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบได้

ส่วนเกษตรกรรายเดิมและใช้แปลงเดิมสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ผ่าน Farmbook Application โดยใช้รหัสทะเบียนเกษตรซึ่งระบุอยู่ในทะเบียนเกษตรกรลงชื่อเข้าใช้งานแอปฯ รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน

ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ต้องเป็นข้อเท็จจริง หากเกษตรกรแจ้งข้อมูลเท็จ ถือเป็นความผิดทางอาญา ตามมาตรา 137 และ มาตรา 267 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated