กรมประมง...ผลักดันการเลี้ยง “ปลาชะโอน” สัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ ถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกร ภายใต้โครงการแปลงใหญ่
กรมประมง...ผลักดันการเลี้ยง “ปลาชะโอน” สัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ ถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกร ภายใต้โครงการแปลงใหญ่ (นายมานพ หนูสอน)

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลแหลมโตนด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดเสวนาทิศทางการเลี้ยงปลาชะโอน ในงาน “วันเกษตรและของดี ครบ 50 ปี ตำบลแหลมโตนด ประจำปี 2566” โดยมีนายภูษิต จันทร์เพชร ประมงจังหวัดพัทลุงให้การต้อนรับ ทั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดพัทลุง ข้าราชการกรมประมง ข้าราชการส่วนท้องถิ่น กลุ่มองค์กร ชาวประมงพื้นบ้าน และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมกว่า 400 คน

นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยหลังเป็นประธานการเปิดเสวนาทิศทางการเลี้ยงปลาชะโอน ในงาน “วันเกษตรและของดี ครบ 50 ปี ตำบลแหลมโตนด ประจำปี 2566” ว่า “ปลาชะโอน” เป็นปลาที่พบได้ในแหล่งน้ำจืดทั่วไปของประเทศไทย สำหรับจังหวัดพัทลุง พบชุกชุมที่ตำบลแหลมโตนด อำเภอควนขนุน แต่ปัจจุบันด้วยความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ประกอบกับความต้องการบริโภคสูง ทำให้ปลาชะโอนมีปริมาณลดน้อยลง ซึ่งกรมประมงเล็งเห็นความสำคัญการฟื้นฟูพันธุ์ปลาชะโอนในธรรมชาติให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ และมุ่งมั่นส่งเสริมด้านการเพาะเลี้ยง เพื่อให้มีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยในส่วนของประมงจังหวัดพัทลุงได้ร่วมกับผู้นำชุมชนท้องถิ่นในการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงปลาชะโอนให้แก่เกษตรกร โดยการจัดฝึกอบรมเกษตรกรโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ (กลุ่มสัตว์น้ำจืด) หลักสูตร “การพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงปลาชะโอนของกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่” เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าผลผลิต รายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน โดยในปี 2565 ตำบลแหลมโตนดเคยได้รับรางวัล “ด้านการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ประจำปี 2565 ประเภทดีเด่น” ด้านการเลี้ยงปลาชะโอน

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติม กรมประมงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ในการช่วยฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำที่หายากและใกล้สูญพันธุ์กลับคืนสู่แหล่งน้ำ เพื่อคืนความหลากหลายและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการเพาะพันธุ์ปลาชะโอน เพื่อผลักดันให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated