กรมวิชาการเกษตรแนะวิธีเลือกซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันคุณภาพ พร้อมชี้เป้าแหล่งผลิตขึ้นทะเบียนถูกต้องกว่า 200 แปลง
กรมวิชาการเกษตรแนะวิธีเลือกซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันคุณภาพ พร้อมชี้เป้าแหล่งผลิตขึ้นทะเบียนถูกต้องกว่า 200 แปลง

กรมวิชาการเกษตร แนะซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันคุณภาพดี ให้เลือกต้นกล้าอายุ 8-12 เดือนขึ้นไป ต้นกล้าสมบูรณ์แข็งแรง ทรงต้นแผ่กว้างไม่สูงชะลูด โคนต้นอวบสมบูรณ์แข็งแรง กำชับขอหนังสือสัญญาซื้อขายและใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐาน พร้อมชี้เป้าแหล่งผลิตต้นกล้าที่ถูกต้องตรงตามพันธุ์ต้องซื้อจากแปลงเพาะกล้าปาล์มฯ 244 แปลงที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเท่านั้น

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ปาล์มน้ำมันเป็นทั้งพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงาน เป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์หลายชนิด การทำสวนปาล์มน้ำมันเพื่อให้มีผลผลิตที่ดี มีประสิทธิภาพจะต้องมีการเลือกพันธุ์ที่ดี เลือกพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม และจัดการสวนอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามความต้องการของปาล์มน้ำมัน จะทำให้ผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ดังนั้นการปลูกปาล์มน้ำมัน เกษตรกรต้องซื้อพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นพันธุ์ดี แต่จากภาวะปัจจุบันความต้องการต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่สูงมาก ทำให้มีการเพาะเมล็ดใต้โคนมาจำหน่ายทางสื่อออนไลน์-เฟชบุ๊กต่างๆ รวมถึงการจำหน่ายเมล็ดงอกไม่มีที่มาที่ถูกต้อง ส่งผลให้เกษตรกรหลงเชื่อซื้อต้นกล้าและเมล็ดงอกที่ไม่มีคุณภาพดังกล่าว ซึ่งศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี กรมวิชาการเกษตร มีคำแนะนำการเลือกซื้อต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพเพื่อปลูกเป็นการค้า ให้ผลผลิตสูงและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยแนะนำเกษตรกรชาวสวนปาล์มหรือผู้ที่คิดจะเริ่มต้นทำสวนปาล์มน้ำมัน ดังนี้

การเลือกซื้อต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ ควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้หรือผู้ผลิตที่สามารถให้คำรับรองพันธุ์และหลักฐานใบเสร็จรับเงินจากการซื้อพันธุ์ได้ ก่อนตัดสินใจซื้อขอให้สอบถามข้อมูล และตรวจสอบแหล่งที่มาของพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากผู้ผลิตก่อน เนื่องจากพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มาจากแหล่งผลิตที่มีมาตรฐานจะให้ผลผลิตดีกว่าพันธุ์ที่ไม่ทราบที่มาซึ่งจะเป็นความเสี่ยงอย่างมากสำหรับเกษตรกร และควรเลือกซื้อปาล์มน้ำมันลูกผสมเทเนอราจากแปลงเพาะชำที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร พันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีลักษณะดีให้เลือกต้นกล้าที่มีอายุ 8-12 เดือน ขึ้นไป และต้นกล้าต้องมีลักษณะสมบูรณ์แข็งแรง ทรงต้นแผ่กว้างไม่สูงชะลูด โคนต้นอวบสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมขอหนังสือสัญญาซื้อขายและใบเสร็จรับเงินจากผู้ผลิตเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ควรเลือกพื้นที่ปลูกในเขตที่เหมาะสม พร้อมศึกษาข้อจำกัดของปาล์มน้ำมันก่อนปลูกจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้

สำหรับพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ไม่มีคุณภาพให้สังเกตจากส่วนลักษณะต้นกล้าที่ผิดปกติในแปลงอนุบาล (อายุ 2-4 เดือน) จะมีลักษณะยอดและใบบิดเบี้ยว ใบขดม้วนรอบเส้นกลางใบ ใบเรียวแคบ ใบกึ่งกลางคอด และต้นแคระแกร็น ส่วนลักษณะต้นกล้าผิดปกติ แปลงอนุบาลหลัก (อายุตั้งแต่ 8 เดือน ขึ้นไป) จะมีลักษณะใบย่อยไม่คลี่ ใบขนนกไม่คลี่เป็นใบย่อยหรือคลี่บางส่วน ส่วนมากอาการคล้ายปาล์มเป็นหมัน ซึ่งต้นกล้าชนิดนี้จะให้ผลลิตต่ำมาก ใบเกิดใหม่สั้นทางใบตกและต้นอ่อนแอลักษณะต้นเจริญเติบโตและพัฒนาช้ากว่าปกติ ทำให้ต้นมีขนาดเล็ก แคระแกร็น

“การเลือกซื้อต้นกล้าปาล์มน้ำมันที่ถูกต้องตรงตามพันธุ์ต้องซื้อจากแปลงเพาะที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนในปี 2565 จำนวน 244 แปลง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันได้จากเว็บไซต์ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร  www.doa.go.th/ard หรือสอบถามจากหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1-8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดต่างๆ ที่มีแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันตั้งอยู่ หากพบมีการแอบอ้างจำหน่ายปาล์มน้ำมันลูกผสมสุราษฎร์ธานีของกรมวิชาการเกษตร สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ที่ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 077-259145” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated