ประเทศไทยได้สิทธิเจ้าภาพพืชสวนโลก ปี 2569 พร้อมเนรมิต “หนองแด” อุดรธานี บนพื้นที่ 1,030 ไร่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โชว์ศักยภาพพืชสวนไทยสู่สายตาชาวโลก
ประเทศไทยได้สิทธิเจ้าภาพพืชสวนโลก ปี 2569 พร้อมเนรมิต “หนองแด” อุดรธานี บนพื้นที่ 1,030 ไร่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ โชว์ศักยภาพพืชสวนไทยสู่สายตาชาวโลก

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB หรือ สสปน.) เข้าร่วมการประชุมสมาคมพืชสวนโลก (2022 AIPH Spring Meeting) ตามคำเชิญของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (International Association of Horticultural Producers : AIPH) 

โดยในวันนี้ (8 มีนาคม 2565) AIPH ได้ประกาศการคัดเลือกอย่างเป็นทางการ ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 (ระดับ B) ณ Crowne Plaza Dubai Marina เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้แนวคิด Diversity of Life: Connecting people, water and plants for sustainable living (วิถีชีวิตสายน้ำและพืชพรรณ) ระยะเวลาจัดงานระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 – 14 มีนาคม 2570 (134 วัน)

สถานที่จัดงานจะอยู่ บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี บนเนื้อที่ 1,030 ไร่ แบ่งเป็นพื้นน้ำ 400 ไร่ และพื้นดิน 630 ไร่ คาดว่าจะทำให้มีจำนวนผู้เข้าชมงานถึง 3.6 ล้านคน เป็นชาวไทยร้อยละ 70 และชาวต่างชาติร้อยละ 30 มีจำนวนประเทศ ที่เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 20 ประเทศ / องค์กร / สมาคม 

การเป็นเจ้าภาพมหกรรมพืชสวนโลกในปี 2569 ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก สามารถเพิ่มเงินสะพัดระหว่างการจัดงานได้ประมาณ 32,000 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ประมาณ 20,000 ล้านบาท และเกิดการสร้างงาน การจ้างงาน ประมาณ 81,000 อัตรา

สำหรับงานมหกรรมพืชสวนโลกเป็นงานมหกรรมจัดแสดงด้านพืชสวนกลางแจ้ง โดยมีสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การจัดงาน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตรเข้าเป็นสมาชิก AIPH ในนามประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 และไทยได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2549 และ ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2554 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการยื่นประมูลสิทธิในการเป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ.2569 นี้ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทย ยื่นประมูลสิทธิในการเป็นเจ้าภาพ และเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบงบประมาณด้วยแล้ว

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB หรือ สสปน.) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจังหวัดอุดรธานี ได้ยื่นประมูลสิทธิการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569 อย่างเป็นทางการต่อสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 และคณะกรรมการสมาคม AIPH ได้เดินทางมา สำรวจพื้นที่เชิงลึก (Site Inspection) เมื่อวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ณ จังหวัดอุดรธานี ตามข้อกำหนดของ AIPH เรียบร้อยแล้ว

สำหรับวัตถุประสงค์ที่ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานในปี 2569 นี้ คือ

1) เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาด้านพืชสวนของไทย และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนทางวิชาการและเทคโนโลยีด้านพืชสวนในระดับชาติและระดับนานาชาติ   

2) ลดความเหลื่อมล้ำกระจายรายได้ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศผ่านการจัดงาน 3) ส่งเสริมการพัฒนาและต่อยอดการเกษตรด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีและการวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุนของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และ 4) สร้างจังหวัดอุดรธานีให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านการเกษตรของภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตและการต่อยอดสู่ BCG Model (Bio Economy, Circular Economy, Green Economy)

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated