ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
นายชินจิ ซูเอนากะ (ซ้าย) ประธาน บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด และนายชิเกมิ ฮิดากะ (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนา บริษัท ยันม่าร์ อะกริบิซิเนส จำกัด กับโรบอทแทรกเตอร์

กรุงเทพฯ – บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด และ บริษัท ยันม่าร์ อกริบิสเนส จำกัด ในเครือยันม่าร์กรุ๊ป จัดการสาธิตโรบอทแทรกเตอร์ที่ทำงานอัตโนมัติโดยไร้คนขับ ณ แปลงสาธิต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยโรบอทแทรกเตอร์ดังกล่าวเกิดจากความสำเร็จของโครงการทดลองนำเทคโนโลยีดาวเทียมนำทางมาใช้ในเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนโดยองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ JICA และคณะกรรมการร่วมไทย-ญี่ปุ่น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตรกรรม และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการเกษตรของไทยในอนาคต

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
นายชิเกมิ ฮิดากะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนา บริษัท ยันม่าร์ อะกริบิซิเนส จำกัด

ยันม่าร์เชื่อว่าการใช้หุ่นยนต์เครื่องจักรกลการเกษตรเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มผลผลิตในระยะยาว เพราะคาดว่าประเทศไทยจะมีแรงงานในภาคการเกษตรลดลงอย่างต่อเนื่อง ยันม่าร์จึงได้ริเริ่มโครงการดังกล่าวขึ้นโดยนำโรบอทแทรกเตอร์ที่มีวางจำหน่ายแล้วในญี่ปุ่นเมื่อเดือนตุลาคม 2561 มาทดสอบการทำงานในประเทศไทยโดยติดตั้งเทคโนโลยีนำทางที่ทางหน่วยงานภาครัฐของไทยได้พัฒนาเครือข่ายขึ้นมาก่อนหน้านี้

นอกเหนือจากโรบอทแทรกเตอร์แล้ว ในอนาคตยันม่าร์มีแผนจะทดลองนำเทคโนโลยีดาวเทียมนำทางมาใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ในประเทศไทย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับลูกค้า รวมถึงลดการใช้แรงงานคนลงตามเทรนด์ในอนาคต

แทรกเตอร์ที่ใช้ในการสาธิต

โรบอทแทรกเตอร์ รุ่น YT5113

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
โรบอทแทรกเตอร์ YT5113

ฟีเจอร์หลักของแทรกเตอร์

  1. มีการทำงานให้เลือก 2 โหมด

ใน “โหมดอัตโนมัติ” (Auto Mode) นอกจากแทรกเตอร์สามารถวิ่งเดินหน้าแล้ว ยังสามารถถอยหลัง หยุด และเลี้ยวได้แบบอัตโนมัติได้ ส่วนใน “โหมดเดินหน้า” (Linear Mode) อย่างเดียว แทรกเตอร์สามารถวิ่งไปมาได้ด้วยตัวเอง แต่บางคำสั่งยังต้องอาศัยการบังคับด้วยคน เช่น การเลี้ยว ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถสับเปลี่ยนการทำงานระหว่าง 2 โหมดได้ตามทักษะของคนควบคุมรถ และลักษณะงานที่ทำ

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
โรบอทแทรกเตอร์ YT5113

“โหมดเดินหน้า” (Linear Mode) ที่ทำงานแบบเดินหน้าอัตโนมัติ (ซ้าย)

ส่วน “โหมดอัตโนมัติ” (Auto Mode) แทรกเตอร์สามารถขับขี่ได้ด้วยตัวเอง (ขวา)

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
มีการทำงานให้เลือก 2 โหมดคือ “โหมดเดินหน้า” (รูปซ้าย) ทำงานอัตโนมัตเฉพาะการเดินหน้า ส่วน “โหมดอัตโนมัติ” (รูปขวา) แทรกเตอร์ขับขี่ได้ด้วยตัวเอง
  1. ปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นด้วยระบบปฏิบัติการที่เรียนรู้ด้วยตัวเองและระบบนำทางความแม่นยำสูง

โรบอทแทรกเตอร์สามารถควบคุมการปฏิบัติงานและตั้งค่าผ่านแท็บเล็ตหน้าจอ 10 นิ้วได้ ซึ่งมีความทนทานและกันฝุ่นกันน้ำเพื่อให้มั่นใจได้ในสภาพการทำงานที่สมบุกสมบัน โดยผู้ใช้ 1 คนสามารถควบคุมแทรกเตอร์จากแท็บเล็ตได้สูงสุด 2 คันพร้อมกัน จึงสามารถใช้แทรกเตอร์ไร้คนขับ 1 คัน และแทรกเตอร์ที่มีคนขับ 1 คัน ทำงานคู่กันไป แท็บเล็ตยังใช้งานง่ายโดยแสดงข้อมูลบนหน้าจอเป็นสัญลักษณ์และคำอธิบาย เช่น การตั้งขอบเขตพื้นที่ทำงาน การกำหนดเส้นทาง และการติดตามดูแทรกเตอร์ในระหว่างทำงาน

ผู้ใช้ 1 คนสามารถควบคุมแทรกเตอร์ได้สูงสุด 2 คันพร้อมกันจากแท็บเล็ต โดยทำงานวิ่งคู่กันไป

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
หน้าจอการทำงานและการตั้งค่าของแท็บเล็ต

หน้าจอการทำงานและการตั้งค่าของแท็บเล็ต

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
หน้าจอการทำงานและการตั้งค่าของแท็บเล็ต
  1. วางใจได้ด้วยอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอย่างรอบด้าน

เพื่อความปลอดภัย โรบอทแทรกเตอร์ที่ทำงานได้โดยไร้คนขับจึงมีการติดตั้งเซนเซอร์จำนวนมากและสัญญาณไฟความปลอดภัยเพื่อหยุดเมื่อเข้าใกล้คนหรือสิ่งกีดกวาง นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถสั่งหยุดการทำงานฉุกเฉินได้จากแท็บเล็ตที่ใช้ควบคุมได้

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
เซนเซอร์ความปลอดภัยเพื่อตรวจจับคนและสิ่งกีดขวาง

เซนเซอร์ความปลอดภัยเพื่อตรวจจับคนและสิ่งกีดขวาง (ซ้าย) ไฟสัญญาณความปลอดภัย (ขวา)

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
ไฟสัญญาณความปลอดภัย

ความเป็นมาของโครงการทดลองนำเทคโนโลยีนำทางมาใช้ในเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศไทยของยันม่าร์

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 รัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศว่าจะร่วมกันพัฒนา “เครือข่ายเสารับสัญญาณมาตรฐาน” ที่ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมนำทางขึ้นในประเทศไทย และได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือสานต่อเครือข่ายดังกล่าวในเดือนมิถุนายน 2560 นับแต่นั้นมาทั้งสองฝ่ายได้มีความร่วมมือกันในหลายโครงการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาสังคมข้อมูลข่าวสารในไทยโดยใช้เทคโนโลยีดาวเทียมนำทางจากญี่ปุ่น

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ JICA ที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาลญี่ปุ่นได้ช่วยสนับสนุนรัฐบาลไทยด้านเทคนิกหลายด้าน และยังสนับสนุนภาคเอกชนของญี่ปุ่นในการนำเทคโนโลยีดาวเทียมนำทางมาช่วยพัฒนาประเทศไทย โดยยันม่าร์เป็นหนึ่งในภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่นำเทคโนโลยีข้อมูลนำทางมาทดลองใช้ในโรบอทแทรกเตอร์เพื่อช่วยพัฒนาการทำเกษตรกรรมในประเทศไทย

ยันม่าร์ สาธิตโรบอทแทรกเตอร์ ที่ทำงานอัตโนมัติแบบไร้คนขับ โดยใช้เทคโนโลยีนำทางความละเอียดสูงที่ก้าวล้ำ
นายชินจิ ซูเอนากะ ประธาน บริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด
SIMA_webbanner_468x90_TH_animated