ม.เกษตร จับมือกรมชลประทาน บูรณาการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์ยั่งยืน
ม.เกษตร จับมือกรมชลประทาน ร่วมมือพัฒนาบุคลากรด้านวิจัยนวัตกรรมและการศึกษา และบูรณาการใช้น้ำเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืนของประเทศ

ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน ในการที่จะร่วมพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในด้านวิจัยนวัตกรรมและการศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์และยั่งยืน โดยมี รศ.ดร.วิโรจ อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นประธานในพิธีลงนาม และโดยมี นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน และ รศ.ดร.ตฤณ แสงสุวรรณ รักษาการแทนรองอธิการบดีวิทยาเขตกำแพงแสน ร่วมเป็นสักขีพยายาน เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 ณ อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ม.เกษตร จับมือกรมชลประทาน ร่วมมือพัฒนาบุคลากรด้านวิจัยนวัตกรรมและการศึกษา และบูรณาการใช้น้ำเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืน
ม.เกษตร จับมือกรมชลประทาน ร่วมมือพัฒนาบุคลากรด้านวิจัยนวัตกรรมและการศึกษา และบูรณาการใช้น้ำเพื่อประโยชน์อย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมชลประทาน ได้มีบันทึกข้อตกลงร่วมมือมา 4 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่จะร่วมกันพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพอย่างเข้มข้นเพื่อสร้างผลงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางด้านการเกษตร การชลประทาน และการใช้น้ำอย่างถูกวิธีเพื่อประโยชน์สูงสุด ในส่วนของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ผลิตบัณฑิต และบุคลากร ที่มีความรู้โดยเฉพาะทางด้านการเกษตร ด้านวิศวกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนด้านเทคโนโลยี เพื่อให้ใช้น้ำน้อยแต่มีผลผลิตสูงสุด เป็นต้น สำหรับกรมชลประทาน มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทางด้านการบริหารจัดการน้ำ หาแหล่งน้ำให้มีการพัฒนาที่สมดุลกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำด้วย เช่น ป่าต้นน้ำ การปลูกป่า รวมทั้งการพัฒนาป่าที่เสื่อมโทรมเช่นป่าหัวโล้นจังหวัดน่าน จะร่วมมือกันพัฒนา นอกจากนี้ทางกรมชลประทานยังมีศูนย์สถานการณ์น้ำ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ความร่วมมือทั้งสองหน่วยงานจะได้ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาโดยนำองค์ความรู้ต่างๆ มาบูรณาการในอันที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ หรือสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นผลงานทางวิชาการที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง และสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้อย่างมั่นคงและถาวรตลอดไป

ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์
ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เป็นที่ทราบกันดีว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาวะโลกร้อน และปรากฎการณ์เรือนกระจก เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อทุกประเทศในโลก ในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ได้ประสบกับภัยพิบัติด้านภูมิอากาศ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม พายุ คลื่นความร้อน และไฟป่าเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของโลกอย่างไม่อาจกลับคืนได้ สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความตระหนักในผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม น้ำจึงถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในด้านการเกษตร และภาคอื่นๆ ดังนั้นการที่จะใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำที่ทั้งสองหน่วยงานจึงต้องพัฒนาบุคลากรโดยร่วมศึกษาค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมเพื่อให้ได้องค์ความรู้ใหม่ๆ ในการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์ยั่งยืน รวมถึงการใช้น้ำในทุกภาคส่วนของประเทศโดยรวมด้วย

นายสัญชัย เกตุวรชัย
นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน
SIMA_webbanner_468x90_TH_animated