ลุยสวนฝรั่งบ้านแพ้ว ...อยู่กับฝรั่งเดือนเดียวมีรายได้มากกว่าทำงานบริษัททั้งปี
เธอคือ วราภรณ์ ขุนพิทักษ์ ...เจ้าของสวนฝรั่งเงินล้าน รางวัลชนะเลิศงานเกษตรแฟร์ 59

เรื่องจริงไปพิสูจน์มาแล้ว …ความเดิมก็คือว่าได้อ่านข้อเขียนของคุณหนึ่งฤทัย แพรสีทอง จากนิตยสารรักษ์เกษตร ได้เขียนเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจู ก็ทำให้เกิดความสนใจ ยิ่งแปลงปลูกอยู่อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกไม้ผลหลายชนิด ก็ยิ่งทำให้ต้องรีบไปดูในทันที…อีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนก็คือว่า ฝรั่งกิมจูสวนนี้ได้รับรางวัลทั้งชนะเลิศ รองชนะเลิศ ในการประกวดฝรั่งกิมจูงานเกษตรแฟร์ประจำปี 59 สดๆร้อนๆเลยละ

เกษตรก้าวไกลดอทคอม ลุยสวนฝรั่งกิมจู...รางวัลชนะเลิศงานเกษตรแฟร์ 59
เกษตรก้าวไกลดอทคอม ลุยสวนฝรั่งกิมจู…

พบชาวสวนรุ่นใหม่ พิศมัยฝรั่งยิ่งกว่าพืชตัวใด

เส้นทางจากกรุงเทพฯกับบ้านแพ้วแม้ว่าไม่ไกลกันนัก แต่วันนี้การจราจรติดขัด จากที่นัดกันว่าจะไปให้ถึงสัก 10 โมงก็ปาไปเกือบเที่ยง เราได้พบกับผู้หญิงสาวเจ้าของสวนนามว่า  “วราภรณ์ ขุนพิทักษ์” และครอบครัวของเธอที่กำลังช่วยกันคัดฝรั่งส่งขาย เพราะบ่ายๆก็จะมีแม่ค้าเจ้าประจำมารับ

เธอเป็นใครมาจากไหนและทำไมต้องมาปลูกฝรั่ง? “หลังจากเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ก็เข้าทำงานบริษัทในเมืองได้ไม่นานนัก ก็ลาออกมาช่วยพ่อแม่ทำสวน  ซึ่งที่บ้านทำสวนกว่า 30 ไร่ พืชหลักที่ปลูกก็คือมะม่วง แซมด้วยชมพู่ และฝรั่ง แต่หลังจากที่ได้มาลองทำเองก็เห็นได้ว่าพืชที่ปลูกทั้งหมด ฝรั่งน่าสนใจที่สุด เพราะมะม่วงที่ทำมานานนั้นพื้นที่ 30 ไร่ มีรายได้เพียงปีละ 2-3 แสนบาทเท่านั้น เพราะเป็นมะม่วงพันธุ์ทั่วไปที่เน้นขายป้อนตลาดขายส่ง ขณะที่ฝรั่งสามารถให้ผลผลิตเร็ว เพียง 8 เดือนก็จะสามารถตัดลูกชุดแรกได้แล้ว อีกทั้งผลตอบแทนก็สูง จึงตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่สวนที่ปลูกพืชหลายอย่างมาเน้นหนักฝรั่งและปลูกฝรั่งมาตลอด”

ครอบครัวฝรั่งกิมจู
ครอบครัวฝรั่งกิมจู

ฝรั่ง 10 ไร่ ทำเงินล้าน/ต่อปี จึงขยายเป็น 24 ไร่

ชาวสวนหลายคนที่ทำสวนฝรั่งอาจไม่ได้เก็บข้อมูลตัวเลขการลงทุนและรายได้ แต่คุณวราภรณ์เก็บข้อมูลไว้หมด ซึ่งทำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนของการทำสวนฝรั่งได้เป็นอย่างดี เธอบอกว่า ฝรั่งเป็นพืชที่ให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว โดยจะมีผลผลิตชุดใหญ่ๆอยู่ประมาณ 3 ชุดต่อปี อย่างชุดตรุษจีนที่ผ่านมาซึ่งเป็นชุดใหญ่ พื้นที่ 10 ไร่ สามารถเก็บเกี่ยวได้มากถึง 44,000 กก. ในช่วงเวลาการเก็บ 5-6 วัน(หมดชุด)ราคาช่วงนั้น 25-35 บาท/กก. ชุดเดียวทำเงินไปเฉียด 1 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยฝรั่ง 10 ไร่จะลงทุนต่อ 1 ชุดเพียงแสนกว่าบาทเท่านั้น

“คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเป็นชาวสวน เพราะรายได้จากการปลูกฝรั่งเพียงเดือนเดียวมันมากกว่ารายได้ที่ทำงานบริษัททั้งปีซะอีก…สุดท้ายได้ขยายพื้นที่ปลูกฝรั่งถึง 24 ไร่ จากทั้งหมด 30 ไร่ ที่เหลือก็แบ่งไปปลูกพืชอย่างอื่นนิดหน่อย”

วางแผนการผลิตให้ตรงกับช่วงแพง

แปลงปลูกฝรั่งของคุณวราภรณ์จะมีอยู่ 2 แปลง แปลงหนึ่ง 14 ไร่ อีกแปลง 10 ไร่ เธอบอกว่า พืชทุกชนิดจะมีช่วงราคาถูก แพงในรอบปี ฝรั่งก็เช่นเดียวกัน มักจะมีราคาถูกในช่วงหน้าร้อนต่อต้นฝนหรือเดือน มี.ค.-มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลใหญ่ของผลไม้บ้านเรา เป็นที่รู้กันว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มะม่วง เงาะ ทุเรียน มังคุดบุกตลาด เมื่อนั้นผลไม้ชนิดอื่นแทบหมดความสำคัญ และช่วงนั้นจะเป็นช่วงราคาตกต่ำของผลไม้ ถ้าไม่อยากเสี่ยงกับราคาช่วงนี้ก็หลีกเลี่ยงที่จะให้มีผลผลิตเก็บขายได้ช่วงนี้ ดังนั้นช่วงนี้คุณวราภรณ์จะไม่ห่อผลฝรั่งเลย เพราะว่าราคาฝรั่งจะไม่ไกลไปกว่า 10 บาท/กก. (ราคาหน้าสวน)

ส่วนช่วงที่ฝรั่งมักมีราคาแพงจะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีผลไม้ชนิดไหนออกสู่ตลาดอย่างช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. ช่วงนั้นราคาฝรั่งจะสูงถึง 30-40 บาท/กก. (หน้าสวน) กับอีกช่วงคือ ม.ค.-ก.พ.ซึ่งมีเทศกาลต่างๆมาก การวางแผนจะให้ฝรั่งเก็บได้ช่วงไหนก็นับย้อนไป 5 เดือนแล้วโน้มกิ่งให้ฝรั่งแตกยอดใหม่เพื่อที่จะให้ผลผลิต หรือนับจากห่อผลก็ 3 เดือนสามารถเก็บเกี่ยวได้

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ

เทคนิคการดูแลสวนฝรั่งเพื่อให้ได้ผลผลิตคุณภาพ

คุณวราภรณ์เล่าถึงการดูแลฝรั่งที่สวนว่า ฝรั่ง 1 ไร่ สามารถปลูกได้ 150-200 ต้น ขึ้นกับสภาพพื้นที่ปลูก และระยะปลูก ที่ปลูกเป็นแบบยกร่อง เนื่องจากเป็นเขตที่ลุ่ม ขนาดร่อง 2 เมตร บนร่องปลูก 2 แถว แบบสลับฟันปลา ระยะปลูกประมาณ 1.5 เมตร ฝรั่งจะเริ่มเก็บได้เมื่ออายุ 8 เดือนหลังปลูก โดยในรอบ 1 ปี จะทำชุดใหญ่ 3 ชุด โดยชุดที่จะมีราคาแพงที่สุดจะเป็นชุดที่เก็บเกี่ยวเดือน ส.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นฝรั่งที่จะต้องโน้มกิ่งในช่วงต้นเดือนมีนาคม การโน้มกิ่งฝรั่งจะทำให้ฝรั่งแตกยอดพร้อมกับออกดอกบนกิ่งที่โน้ม โดยจะโน้มกิ่งให้ราบขนานกับพื้นแล้วผูกมัดกิ่งกับหลักไม้ไผ่ พร้อมกับตัดปลายกิ่งเพื่อหยุดการแตกยอดหรือหยุดการเจริญเติบโตของยอดหรือที่ชาวสวนเรียกการหักยอด หรือขลิบยอด ซึ่งฝรั่งจะติดดกหรือไม่นั้นก็ขึ้นกับความสมบูรณ์ของต้น

“หลักการของเราคือต้องดูแลให้ฝรั่งมีต้นสมบูรณ์ตลอดทั้งปี โดยหลังจากโน้มกิ่งแล้วจะใส่ปุ๋ย 25-7-7 พื้นที่ 10 ไร่ ใส่ประมาณ 3 กระสอบ หลังจากนั้นอีก 15 วัน ใส่ 16-16-16 อัตราเดิม เมื่อผลโตขนาดเท่าผลส้มจะเปลี่ยนมาใส่ขี้ค้างคาวอัดเม็ดและปุ๋ยอินทรีย์เคมีอัดเม็ดที่มีธาตุอาหารแคลเซียม แมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบ(ไบโอฟีด ของ เคโมคราฟ) ซึ่งจะทำให้ฝรั่งผิวสวย ฝรั่งผิวออกขาว ไม่เขียวและรสชาติหวาน กรอบ เนื้อฟู ทางใบพ่นน้ำส้มควันไม้อย่างต่อเนื่องทุก 7-10 วัน เพื่อช่วยในด้านการเจริญเติบโต ความสมบูรณ์ของต้นและยังช่วยป้องกันแมลงอีกด้วย”

นอกจากนี้จะต้องพ่นแคลเซียม-โบรอนไม่ให้ขาด จะช่วยทั้งเรื่องเพิ่มความสมบูรณ์ของดอก เพิ่มการติดผลดก ขั้วเหนียว ผลกรอบ รสชาติหวาน และช่วงใกล้เก็บเกี่ยวเสริมน้ำตาลทางด่วนเพื่อเพิ่มรสชาติช่วยอีกแรง นอกจากนี้จะมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อช่วยปรับสภาพโครงสร้างดินเป็นระยะๆ ปีละ 3 ครั้ง การพ่นสารเคมีกำจัดโรค-แมลง จะพ่นหนักหน่อยในช่วงก่อนห่อผล 7 วันหลัง แต่หลังห่อผลแล้วก็จะพ่นห่างหน่อย สารเคมีที่ใช้ก็จะเป็นยาพื้นๆ อย่างคลอร์ไพรีฟอส ไซเปอร์เมทริน เมโทมิล สารกำจัดเชื้อราก็ใช้เพียงแมนโคเซ็บ คาร์เบนดาซิม นอกจากว่าเจอโรค-แมลงที่หนักๆ จึงจะใช้ยาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไรรุนแรง ส่วนการให้น้ำจะให้ 2 วันครั้ง ช่วงร้อนๆอย่างนี้จะให้น้ำทุกวัน…

การห่อผลเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นมากๆ “เมื่อผลขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท จะห่อผลเพื่อป้องกันแมลงวันทองโดยใช้ถุงพลาสติกที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันแมลงวันทองโดยเฉพาะ แล้วห่อทับด้วยกระดาษอีกชั้นเพื่อให้ผิวสวย…. ฝรั่ง 1 ต้น จะห่อไม่เกิน 100 ลูก ถ้าเลือกไว้ผลมากเกินไป จะทำให้ผลมีขนาดเล็กได้”

เรื่องแรงงานก็เป็นเรื่องสำคัญ เห็นกำลังตัดและคัดฝรั่งอยู่หลายคน “ฝรั่งเป็นพืชที่ต้องใช้แรงงานเยอะอยู่ 3 ช่วง คือ ช่วงโน้มกิ่ง จะหนักหน่อยก็ช่วงห่อ ฝรั่ง 10 ไร่ วันหนึ่งต้องห่อ 7-8 คน และต้องห่อ 2-3 วันจึงจะเสร็จ ถ้าให้เสร็จวันเดียวต้องจ้างมากถึง 20-25 คน และต้องเป็นแรงงานที่มีความชำนาญด้วย อีกช่วงคือ ช่วงเก็บฝรั่งก็ใช้ 4-5 คน”

เอาใจใส่...ดูแลอย่างดี
ฝรั่งที่นี่ดูแลเอาใจใส่อย่างดี

ฝรั่งมีอายุ 5-6 ปี ก็จะรื้อแปลงปลูกใหม่

ฝรั่งที่ปลูกจะมีอายุการเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 5 ปี ต้นก็จะเริ่มโทรมการให้ผลผลิตก็จะสู้ต้นสาวๆ หรือต้นอายุน้อยๆไม่ได้ ประกอบกับหลายสวนมีปัญหาฝรั่งตายต้นจากไส้เดือนฝอย แต่ที่สวนยังไม่มีปัญหา เราจะต้องปรับปรุงดินให้สมบูรณ์ ร่วนซุย ไม่มีความเป็นกรดมากเกินไปก็จะช่วยลดความรุนแรงของการระบาดลงไปได้

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาจึงทำให้ชาวสวนฝรั่งมักจะรื้อแปลงปลูกใหม่เมื่อฝรั่งอายุ 5-6 ปี จึงทำให้เราเห็นแปลงฝรั่งแปลงใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่ตลอดในพื้นที่เขตนี้

ฝรั่งที่ปลูกใหม่จะใช้กิ่งตอนที่เลือกตอนจากกิ่งกระโดงที่สมบูรณ์ โดยที่สวนของคุณวราภรณ์ได้ทำกิ่งพันธุ์ขายด้วย (แต่ช่วงนี้กิ่งฝรั่งขาดแคลน ต้องสั่งจองล่วงหน้า) ราคากิ่งพันธุ์ที่จำหน่าย 12 บาท/กิ่ง กรณีพื้นที่ปลูก 1 ไร่ ประมาณ 150-200 ต้น ซึ่งลงทุนเพียง 2,000 กว่าบาทต่อไร่ ถือว่าไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับพืชอย่างอื่น อีกทั้งยังมีต้นทุนในการดูแลไม่มาก แต่ผลตอบแทนสูงมาก ชาวสวนเขตนี้จึงยังปักหลักปลูกฝรั่งมาตลอดหลายสิบปี ยิ่งช่วง 4-5 ปีมานี้ราคาฝรั่งดีมาก ทำให้คนที่เคยปลูกพืชอื่นหันมาปลูกฝรั่งกันมากขึ้น และแพร่กระจายไปในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าราคาฝรั่งอาจจะตกลงมาบ้าง

แต่เมื่อสรุปสุดท้ายก็ยังดีกว่าพืชหรือไม้ผลตัวอื่นๆ เพราะฝรั่งยังแปรรูปได้และเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพนั่นเอง

ขอบคุณ : ข้อมูลเดิมจากกลุ่มเกษตรก้าวใหม่ new  โดย Rakkaset Nungruethail (คุณหนึ่งฤทัย แพรสีทอง) บรรณาธิการ นิตยสารรักษ์เกษตร

หมายเหตุ : สวนฝรั่งคุณวราภรณ์ ขุนพิทักษ์ โทร. 087 9981131

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated