เลาะฝั่งธนชมวิถีคนปลูกจำปี ไม้ดอกราคาดี ขายทั้งดอกสดและแปรรูป

จำปี (Michelia longifolia Blume.)เป็นไม้พุ่มยืนต้น มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย โดยยังไม่มีหลักฐานการยืนยันแน่ชัดว่าใครเป็นผู้นำเข้ามาและเข้ามาในประเทศไทยเมื่อใด รู้แต่เพียงว่าเมื่อเข้ามาแล้วก็กลายเป็นดอกไม้อีกชนิดที่นิยมนำไปใช้ในการประดิษฐ์ประดอยเกี่ยวกับการถักร้อยมาลัยในพิธีและประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ ของประเทศไทย อีกทั้งในปัจจุบันยังมีการแปรรูปจำปีจากการสกัดน้ำมันหอมระเหยและนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย อาทิ น้ำหอม น้ำปรุง  และเครื่องใช้อุปโภคประจำวันอื่นๆอีกมากมาย จึงทำให้จำปีเป็นไม้ตัดดอกอีกชนิดที่คงความนิยม ทั้งยังปลูกง่าย สร้างรายได้ดีให้กับผู้ปลูก โดยตลาดใหญ่ของจำปีก็คือตลาดปากคลองตลาด ที่เป็นแหล่งรวบรวมขายดอกไม้นานาชนิด

สำหรับแหล่งปลูกจำปีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่แถบกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะย่านจังหวัดนครปฐมในพื้นที่อำเภอนครชัยศรีและอำเภอดอนตูม และที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ส่วนในกรุงเทพฯ พื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่แถบฝั่งธน เขตหนองแขม ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านส่วนใหญ่แถบนี้นั้นจะยึดอาชีพการทำเกษตรกรรมเป็นหลักอยู่แล้ว มีทั้งปลูกผัก ทำสวนผลไม้ สวนหมากพลู มะพร้าว และจำปีที่มีการปลูกกันเป็นจำนวนมากรวมถึงมีการรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกจำปี

คุณพยุง หนูแย้ม เจ้าของสวนจำปีเขตหนองแขม หนึ่งในสมาชิกวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกจำปี เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่ตนจะหันมาปลูกไม้ตัดดอกอย่างจำปีจริงจังนั้น ได้ยึดอาชีพการทำเกษตรกรรมมาอยู่ก่อนแล้วคือ การปลูกผัก แต่ด้วยแรงงานที่หายากจึงได้หันมาเริ่มปลูกจำปีตั้งแต่ปี 2536 เพราะเห็นว่าจำปีเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก และไม่ต้องใช้ปัจจัยการผลิตจำพวกเคมีเยอะ ซึ่งหลังจากปลูกมาได้สักระยะก็เห็นว่าจำปีเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลมากมายตลอดเวลาเหมือนกับพืชอื่นๆ จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกจนกระทั่งปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 15 ไร่

วิธีปลูกจำปี

เลาะฝั่งธนชมวิถีคนปลูกจำปี01วิธีการปลูกนั้น จะปลูกในลักษณะการขุดดินเป็นร่อง โดยการปรับเปลี่ยนจากพื้นที่การปลูกผักมาปลูกจำปีก็แค่เพียงเตรียมดินให้พร้อม ขุดดินยกร่องคันดินให้สูงประมาณ 1 เมตร เพื่อที่เวลาฝนตกลงมา รากจำปีจะไม่แฉะ หลังจากเตรียมดินแล้วก็ไถกลบตากดินไว้ประมาณ 15 วัน การยกร่องโดยทั่วไป หลังร่องจะกว้างประมาณ 6 เมตร แล้วขุดหลุมปลูกโดยใช้ระยะระหว่างต้น 4 เมตร ระหว่างแถวห่าง 6-7 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่จากนั้นจึงนำต้นกล้าจำปีที่เตรียมไว้มาลงปลูก หลังจากปลูกเสร็จก็ให้นํ้าทันที ซึ่งการให้น้ำจะให้ทุกวันจนกว่าต้นจำปีจะตั้งตัวได้ หลังจากนั้นจึงค่อยให้น้ำตามความเหมาะสม อาจจะให้ 2 วันต่อครั้ง หรือดูว่าถ้ามีความชื้นพอก็ไม่จำเป็นต้องให้น้ำก็ได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน จะต้องคอยดูแลการระบายน้ำของแปลงปลูกจำปี เพราะถ้าน้ำขังก็จะทำให้ต้นจำปีอ่อนแอ และเกิดโรครากเน่าได้ เนื่องจากจำปีเป็นไม้ที่ไม่ชอบน้ำมากนัก ชอบน้ำแค่พอชื้นเท่านั้น

สำหรับการบำรุงรักษาจำปีก็จะมีการให้ปุ๋ยบ้าง ซึ่งการให้ปุ๋ยจะเริ่มให้ตั้งแต่หลังที่ปลูกต้นจำปี จนต้ำจำปีสามารถตั้งตัวได้แล้วประมาณ 6 เดือน ก็เริ่มให้ปุ๋ยสูตรเสมอ ในอัตรา 1 กิโลกรัม/ต้น/ครั้ง ซึ่งหลังจากปลูกและดูแลจำปีไปประมาณ 1 ปีครึ่ง-2 ปี จำปีก็จะเริ่มให้ผลผลิตดอกก็เปลี่ยนมาให้ปุ๋ยสูตร 9-24-24 หรือ 8-24-24 ในอัตรา 1 กิโลกรัม/ต้น/ครั้ง ซึ่งการใส่ปุ๋ยจะให้รอบทรงพุ่ม นอกจากปุ๋ยเคมีแล้ว ก็ให้ปุ๋ยคอกบ้าง และทำปุ๋ยน้ำชีวภาพและฮอร์โมนไข่ สำหรับบำรุงตาดอกจำปีด้วย เป็นแนวทางการทำเกษตรแบบผสมผสานที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต

“การปลูกจำปีถ้าเราดูแลรักษาดีๆ ก็จะให้ผลผลิตได้นาน แต่ต้องระวังศัตรูที่น่ากลัวสำหรับจำปีคือ ไส้เดือนดิน เพราะว่าดินแถวนี้มีลักษณะเป็นดินเหนียว มีไส้เดือนเป็นเมือก เมื่อไส้เดือนเลื้อยไป เมือกจะช่วยเก็บน้ำเวลาฝนตก ดินจะแฉะ ทำให้ต้นไม่แตกใบอ่อน ใบเฉา ปัจจุบันทางกลุ่มฯ ได้แก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการใช้กากชาหว่านใต้ลำต้น เพื่อทำให้ไส้เดือนตาย”

เทคนิคการผลิตให้ออกดอกดี

เลาะฝั่งธนชมวิถีคนปลูกจำปี02คุณพยุงเล่าต่อว่าจำปีจะให้ดอกเยอะสุดในช่วงหน้าแล้ง ช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงต้นฝน และจะให้ผลผลิตน้อยสุดในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากความหนาวเย็นของอากาศจะทำให้จำปีออกดอกช้าและมีดอกเล็ก หรือมีขนาดดอกที่เล็กใหญ่ไม่สม่ำเสมอกัน ทำให้ราคาในช่วงนี้จะขายได้ราคาดีกว่าในช่วงหน้าร้อน โดยทางสวนมีเทคนิคการเพิ่มผลผลิตจำปีให้ได้ทั้งปริมาณและขนาดที่เท่าๆ กันคือ ใช้เคล็ดลับวิธี 4 อ. คือ (อิ่ม อั้น อด ออก)

เริ่มจากนับถอยหลังมา 60 วันก่อนถึงวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เริ่มจากใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 รอบทรงพุ่มต้นละประมาณ 2 ขีด ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นก็ฉีดฮอร์โมนไข่เพื่อสะสมตาดอกให้ต้นไม้กินอาหารให้อิ่ม และฉีดฮอร์โมนระงับการแตกยอดอ่อนให้ต้นเกร็นประมาณ  2 อาทิตย์ ก็ตัดแต่งกิ่งตัดแต่งทรงพุ่มของจำปีให้โปร่งโล่ง เลือกเอาไว้แต่กิ่งที่สมบูรณ์ เน้นกิ่งด้านกว้างไว้มาก แต่กิ่งที่จะโตขึ้นให้ตัดออก ทั้งนี้ก็เพื่อให้เก็บได้ง่าย และเพิ่มจำนวนการออกดอกตามกิ่งก้านที่ตัดแต่ง พร้อมกับให้น้ำสม่ำเสมอ แต่พอจำปีเริ่มออกตาตามกิ่งก้านก็หยุดให้น้ำ ก็จะทำให้ต้นจำปีออกกิ่งก้านใหม่พร้อมกับออกดอกดีตามมา

ทั้งนี้การตัดแต่งกิ่งจำปีนอกจากควบคุมความสูงของต้นความสูงของต้น ทำให้ต้นโปร่งเก็บดอกง่ายแล้ว ยังไม่เป็นที่สะสมของโรคและแมลง รวมถึงการตัดแต่งกิ่งยังทำให้ต้นเกิดกิ่งใหม่ ซึ่งเป็นการบังคับการออกดอกไปในตัวอีกด้วย โดยผู้ปลูกสามารถบังคับให้จำปีออกดอกในช่วงที่ต้องการได้เยอะ

รวมกลุ่มขายทั้งดอกสดและแปรรูป

ส่วนการเก็บดอกจำปีนั้นโดยส่วนตัวตนจะจ้างแรงงาน โดยในแต่ละวันจะใช้แรงงานราว6-7 คน จะช่วยกันเก็บดอกจำปี ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม-5 ทุ่ม ได้ดอกจำปีสด 20,000-30,000 ดอก อายุความสดของดอกจำปีอยู่ได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงที่ราคาดีจะส่งขายให้กับพ่อค้าปากคลองตลาด ในราคา 40-50 บาทต่อ 100 ดอก

อย่างไรก็ดีการที่จำปีเป็นไม้ดอกที่ปลูกและดูแลง่ายจึงทำให้พื้นที่ค่อยๆ ขยายเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ในช่วงก่อนปี 2540 ผลผลิตจำปีมีมากและล้นตลาดในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งเป็นช่วงที่จำปีให้ผลผลิตเยอะมากที่สุดในรอบปี ส่งผลให้ราคาตกต่ำมากจนเกษตรกรไม่อาจตัดใจขายได้ โดยตนนั้นก็ได้นำไปถวายพระตามวัดต่างๆ แทนแต่ก็ยังเหลือจำปีอีกจำนวนมาก จึงได้เกิดแนวคิดในการวมตัวเพื่อควบคุมผลผลิตจำปีไม่ให้ล้นตลาดด้วยการนำมาแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้เกิดการรวมตัวกันขึ้นเป็นกลุ่มอาชีพเมื่อปี 2540 และได้เปลี่ยนรูปแบบกลุ่มมาเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกจำปีหนองแขมในปี 2549”

“ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกจำปี เขตหนองแขม มีสมาชิกกว่า 30 คน มีพื้นที่ปลูกจำปีประมาณ 600 กว่าไร่ ก่อนที่จะมีการวมกลุ่มเกิดเป็นวิสาหกิจชุมชนนั้น เกษตรกรในระแวกนี้ก็ต่างคนต่างปลูกต่างขาย ซึ่งมีตลาดใหญ่อยู่ที่เดียวกันก็คือปากคลองตลาด โดยจะขายผ่านมาพ่อค้าคนกลางไป และผลผลิตส่วนหนึ่งพ่อค้าก็ส่งให้กับตลาดหลักอย่างปากคลองตลาด อีกส่วนหนึ่งยังมีการส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย

จากการรวมตัวกันได้มีการนำผลผลิตดอกจำปีสดมาแปรรูปด้วยการสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ น้ำหอมดอกจำปี น้ำปรุง น้ำดอกไม้รวม สบู่ แชมพู ครีมนวด และอื่นๆ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากตลาดด้วยดีโดยองค์ความรู้และอุปกรณ์ในการทำบางส่วนได้มาจากการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐ ทั้งสหกรณ์ เกษตรอำเภอ เป็นต้น

ผลจากการรวมตัวและสร้างมูลค่าเพิ่มนี้เอง ทำให้กลุ่มสามารถรวบรวมส่งผลผลิตดอกจำปีสดในช่วงฤดูแล้งได้ในปริมาณที่เหมาะสม อีกส่วนหนึ่งก็นำมาแปรรูปด้วยการสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเก็บไว้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้ราคาไม่ตกต่ำอย่างที่เคยเป็นมา ยกเว้นมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีส่วนทำให้ราคาต่ำลง เช่น ผลผลิตจำปีจากพื้นที่อื่นๆ มีปริมาณมากจริงๆ ในปีนั้นๆ        

เลาะฝั่งธนชมวิถีคนปลูกจำปี03

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดอกจำปีของกลุ่มฯ ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจนได้รับการรับรองจาก มผช. และอย. รวมถึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้ามาตรฐานสหกรณ์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยได้จดลิขสิทธิ์การจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสัญลักษณ์ดอกจำปีคู่ จากจำปีที่ปกติในช่วงที่ผลผลิตตกต่ำจะขายได้ราคาราคา 5-10 บาทต่อ 100 ดอก แต่เมื่อนำมาแปรรูปด้วยการทำเป็นหัวน้ำหอมสามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึงดอกละ 1 บาท นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่สร้างรายได้ที่ดีไม่น้อยเลย

ท่านใดที่สนใจเยี่ยมชมสวนดอกจำปีและผลิตภัณฑ์แปรรูปดอกจำปี ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกจำปีหนองแขม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2807-2769, 08-6090-9608

เรื่องโดย : เก๋ เกษตรก้าวไกล

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated