ปัจจุบันสถานการณ์เก็บเกี่ยวไม้ผลภาคตะวันออก โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจหลัก 4 ชนิดที่สำคัญ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง กว่าร้อยละ 74 ของผลผลิตคาดการณ์ ปี 2566 ได้ถูกเก็บเกี่ยวแล้ว ซึ่งข้อมูลรายงานของศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจผลไม้ ปี 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 พบว่าทุเรียน เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 618,847.56 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 79.04) มังคุด เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 86,019.89 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 70.50) เงาะ เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 80,000.04 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 56.69) และลองกองเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว 1,926.04 ตัน (คิดเป็นร้อยละ 27.06)
 - นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ 
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้ชาวสวนทุเรียนและสวนมังคุดกว่าครึ่งได้เก็บผลผลิตเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดการสวนให้สะอาด เรียบร้อย และบำรุงต้นเพื่อให้กลับมามีความสมบูรณ์ พร้อมสำหรับฤดูการผลิตในปีต่อไป กรมส่งเสริมการเกษตร จึงมีคำแนะนำการดูแลสวนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนและมังคุดที่ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ดังนี้
1.สวนทุเรียน
การดูแลสวนทุเรียนหลังการเก็บเกี่ยว แบ่งได้ตามสภาพสวนได้ 3 ประเภท ดังนี้
1.1 สวนที่มีสภาพต้นค่อนข้างสมบูรณ์
-ตัดแต่งกิ่งและใส่ปุ๋ยบำรุงต้น สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-3 กิโลกรัมต่อต้น ใส่ร่วมกับปุ๋ยคอก 20-50 กิโลกรัมต่อต้น
-ให้น้ำต้นทุเรียนเมื่อฝนทิ้งช่วง และถ้าฝนตกชุกควรขุดร่องเพื่อระบายน้ำออกจากสวน
1.2 สวนที่มีสภาพต้นค่อนข้างโทรม ทรงพุ่มไม่ค่อยดี มีปริมาณใบน้อย ใบค่อนข้างแห้ง สีของใบไม่เขียวเข้ม ซึ่งเกิดขึ้นกับต้นที่ไว้ผลมากเกินไปหรือดูแลไม่ดีช่วงไว้ผล ควรจัดการดังนี้
– เร่งการเจริญของราก โดยใส่ปุ๋ยเกร็ดสูตร 15-30-15 หรือ 10-20-30 หรือ 20-20-20 ที่มีธาตุอาหารรองและธาตุปริมาณน้อย อัตรา 60 กรัม ผสมกรดฮิวมิค 100-200 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ราดทั่วทรงพุ่มให้ทั่วทุก 7 วัน ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ แล้วคลุมด้วยเศษพืชหรือหญ้าแห้งและรดน้ำให้ชื้นตลอดเวลา เมื่อรากเจริญเติบโตดี ใบก็จะเจริญดีตามไปด้วย ส่งผลให้ต้นทุเรียนมีความสมบูรณ์ขึ้น
1.3 สวนที่มีสภาพต้นทุเรียนทรุดโทรมมาก ใบมีสีเหลือง
– ต้นที่มีใบเหลืองเฉพาะบางกิ่ง เป็นอาการของโรครากเน่าโคนเน่าที่เกิดกับบางส่วนของต้นทุเรียน ให้เร่งแก้ไขในส่วนที่เกิดโรค และเร่งการเจริญของรากตลอดจนควรให้อาหารเสริมที่ต้นทุเรียนสามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยฉีดพ่นไปให้ทั่วด้วยอาการเสริมสูตรทางด่วน ประกอบด้วย 1) สารอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต เป็นองค์ประกอบหลัก เช่น ครอปไจแอน โพลีแซค มอลตานิค และฟลอริเจนฯ อัตรา 20-30 ซีซี (อาจใช้น้ำตาลซูโครส หรือแด็กซ์โตรส 600 กรัม) 2) กรดฮิวมิค อัตรา 20 ซีซี 3) ปุ๋ยเกร็ดสูตร 15-30-15, 20-20-20, หรือ 10-20-30 ที่มีธาตุอาหารรองและธาตุปริมาณน้อย อัตรา 40-60 กรัม โดยผสมรวมส่วนผสมทั้งหมด ในน้ำ 20 ลิตร ร่วมกับสารจับใบและสารป้องกันกำจัดเชื้อราด้วย และฉีดพ่นทุก 7 วัน ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง
– ต้นที่มีใบเหลืองเฉพาะใบอ่อนหรือใบเพสลาดแต่ใบแก่มีสีเขียวปกติ เป็นอาการขาดธาตุอาหารรองและธาตุปริมาณน้อยบางชนิด จึงควรฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ (ธาตุเหล็กและแมกนีเซียม) ทุก 7 วัน ติดต่อกัน 3-4 ครั้ง
– ต้นที่มีใบเหลืองทั้งต้น ใบไม่ค่อยสมบูรณ์ ไม่สดใส แผ่นใบและเส้นกลางใบมีสีเหลือง และใบทุเรียนแสดงอาการขาดน้ำ แสดงว่าเชื้อราไฟทอปธอราทำลายระบบราก ให้เร่งแก้ไขอาการของโรคโดยเร็ว
2. สวนมังคุด
2.1 เตรียมความสมบูรณ์ของต้นหลังการเก็บเกี่ยว โดยเกษตรกรควรตัดแต่งกิ่ง ดังนี้
-ตัดแต่งกิ่งที่อยู่ด้านข้างของทรงพุ่มที่ประสานกันออก เพื่อให้มีช่องว่างระหว่างชายพุ่มกับต้นข้างเคียงประมาณ 50-75 เซนติเมตร เพื่อให้แสงส่องได้ทั่วถึง ในต้นมังคุดที่มีความสูงมากกว่า 8 เมตร หรือสูงเกินความสามารถที่เครื่องพ่นสารจะพ่นสารเคมีถึง ให้ตัดยอดส่วนที่สูงเกินต้องการออก
– ตัดกิ่งประธานและกิ่งรองออกบ้างเพื่อให้แสงส่องเข้าไปในทรงพุ่ม และเกิดการแตกกิ่งแขนงในทรงพุ่ม เพราะกิ่งแขนงในทรงพุ่มสามารถออกดอกได้เหมือนกิ่งที่อยู่นอกทรงพุ่ม และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี มีผิวนวลสวยและเก็บเกี่ยวสะดวก
– ตัดแต่งกิ่งกระโดง กิ่งในบริเวณปลายกิ่งที่ซ้อนทับกัน กิ่งที่ฉีกหักเสียหายและกิ่งที่ถูกโรคและแมลงทำลายออก
2.2 ทำความสะอาดแปลง โดยเก็บกิ่ง ใบผลที่ถูกตัดแต่งไปทำปุ๋ยหมัก และนำสาวนที่ถูกโรคและแมลงเข้าทำลายไปเผาทำลายนอกสวน
2.3 การใส่ปุ๋ย ช่วยบำรุงต้นหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ต้นมังคุดนำไปใช้ทดแทนอาหารที่สูญเสียไปในช่วงเลี้ยงผล และควรใส่ปุ๋ยทันทีหลังจากที่ทำการตัดแต่งกิ่งและทำความสะอาดสวนเรียบร้อยแล้ว โดยใส่ปุ๋ยคอกประมาณ 4 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม (เช่น ต้นมังคุดมีเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 10 เมตร ให้ใส่ปุ๋ยคอก 40 กิโลกรัมต่อต้น) และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ในอัตรากึ่งหนึ่ง (1/3 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม เช่น ต้นมังคุดมีเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม 10 เมตร ให้ใส่ปุ๋ยเคมี 3.3 กิโลกรัมต่อต้น) และควรหว่านปุ๋ยคอกไปพร้อม ๆ กับปุ๋ยเคมี โดยหว่านใต้ทรงพุ่มเข้าหาโคนต้นประมาณ 1 เมตร มังคุดจะแตกใบอ่อนหลังจากใส่ปุ๋ยประมาณ 1 เดือน
 
            
 
		









































