ตามติดเกษตรกรหัวขบวน ธ.ก.ส. ดูงานเกษตรเนเธอร์แลนด์ (ตอนที่ 1 – วิสัยทัศน์ ธ.ก.ส.)

หมายเหตุ / เกษตรก้าวไกล เว็บไซต์เกษตรก้าวไกล เป็น 1 ในสื่อมวลชนที่เดินทางไปศึกษาดูงานที่เนเธอร์แลนด์ กับคณะของเกษตรกรหัวขบวนของ ธ.ก.ส. ในครั้งนี้ จึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวที่เห็นให้กับเกษตรกรคนอื่นๆ “เราจะไม่ให้ความรู้ที่ดักจับได้หลุดลอยไปไหน” เพื่อว่าจะเกิดประโยชน์ในวงกว้าง และจะนำเสนอเป็นตอนๆ

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประกาศวิสัยทัศน์ปรับองค์กรก้าวสู่การเป็นแกนกลางการเกษตร ที่ไม่ใช่การเติมทุนเพียงอย่างเดียวแต่ยังเติมความรู้ให้กับเกษตรกรทุกระดับ โดยเฉพาะเกษตรกร SMEs รายย่อย ภายใต้หลักการตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้

ล่าสุดนี้ได้นำเกษตรกรหัวชบวนไปดูงานด้านการพัฒนาพืชสวนและไม้ดอก การผลิตสินค้าของชุมชน การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีจุดเด่นอย่างมากในเรื่องดังกล่าว โดย นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ที่นำคณะดูงานครั้งนี้ กล่าวว่า

“การที่ ธ.ก.ส. นำคณะ ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนแล้วก็เกษตรกรลูกค้าของเรามาดูงานที่เนเธอร์แลนด์ในครั้งนี้ ก็เรียกว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ก็แล้วกันนะครับ เพื่อให้เกษตรกรที่เป็นคนเก่งของเราอยู่แล้ว ได้เห็นว่าในมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับโลก เขามีการผลิตหรือว่าคิดอย่างไร ในการที่จะดำเนินการต่างๆ เพราะว่าบ้านเรานี้เน้นความสำคัญในการผลิต แต่พอถึงในระดับอุตสาหกรรมโลกเขาเน้นเรื่องการวิจัยพัฒนา ทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆหรือ เกิดผลิตผลทางการเกษตรใหม่ๆที่ออกมา โดยที่แตกต่างจากเดิม อย่างเช่นอุตสาหกรรมดอกไม้ ก็ไม่ใช่การผลิตดอกไม้อย่างเดียวแล้ว ก็สามารถขายเมล็ดพันธุ์ ผลิตขายหัวดอกทิวลิป หัวดอกไม้ในการที่ส่งออก รวมแม้กระทั่งถึงวิธีการทำแพคเกจจิ้ง ที่สำคัญอันหนึ่งในมิติของสวนดอกไม้ในบ้านเรา คือการทำเกษตรเชิงท่องเที่ยว ก็อย่างที่เนเธอร์แลนด์เอง อย่างที่ส่วนแห่งนี้(ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาดูงานเทศกาลดอกทิวลิปบานที่สวนKeukenhof) เขาคิดจะปลูกในแต่ละครอปแต่ละปี เขาจะมีการวางแผนมีดีไซเนอร์เลยว่าจะต้องปลูกสีอะไร ปลูกตรงไหน เกษตรกรบ้านไหนที่จะดูแลตรงนี้ แล้วก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถที่จะเป็นแหล่งรายได้มหาศาล ในการที่จะนำมาสู่ในส่วนของเกษตรกร ผมมองว่าไอเดียเหล่านี้ เกษตรกรที่ได้รับโอกาสในการมาศึกษาดูงานกับ ธ.ก.ส. ในครั้งนี้ ก็สามารถที่จะนำไป Apply หรือประยุกต์ใช้กับการผลิต ในเรื่องการเกษตรประเทศไทยเราได้”

“เรามองแม้กระทั่งว่า ขนาดแปลงปลูกผักธรรมดา ถ้าเกิดว่ามีการดีไซน์ดีๆ ในเรื่องของการที่จะผลิตออกมา ผมว่าจะทำให้คนเมืองหรือคนที่มีกำลังซื้อก็สามารถที่จะใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เราจะไม่ใช่แปลงผักที่ขายเป็นกิโลอีกแล้ว แต่จะเป็นแปลงผักที่สามารถท่องเที่ยวได้ เราก็อยากจะให้เกิดขึ้น ในเรื่องของภาคการเกษตรที่ว่าปลูกตามพรีออเดอร์ หรือว่า Ondemand เพราะมันทำให้กำลังการผลิตหรือวิธีการผลิต เราวางแผนได้”

“อย่างโรงเรือนที่เป็น Class House หรือโรงเรือนกระจกเขาก็จะมีเทคโนโลยีระดับมาตรฐานโลก เป็นผู้นำเลยว่า เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้ปลูกบนพื้นโลกแล้ว เขาใช้ระบบยกขึ้นมาต่างหากก็สามารถที่จะควบคุมธาตุอาหาร คุมปริมาณดิน แล้วก็ทำให้ดินที่มีคุณภาพที่สูงได้ผลผลิตที่สูงมากรวมถึงคุณได้คุณภาพที่เรียกว่าเป็นเกรดพรีเมี่ยม ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้เราอยากให้เกิดในภาคเกษตรของบ้านเรา” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าว

จุดศึกษาดูงานที่สำคัญต่อการพัฒนาการเกษตรในครั้งนี้ ประกอบด้วย หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ ศูนย์นวัตกรรมพืชสวนเรือนกระจกระดับนานาชาติ World Horti Center (WHC) สวนพฤกษชาติเคอเคนฮอฟ(Keukenhof) เทศกาลดอกไม้ไฮไลท์ของเนเธอร์แลนด์ ตลาดดอกไม้ลอยน้ำเก่าแก่แห่งเมืองอัมสเตอร์ดัม ตลาดประมูลดอกไม้ FloraHolland Alsmeer ปิดท้ายที่หมู่บ้านกีธูรน์ Giethoon หมู่บ้านไร้ถนนที่ใช้เรือเป็นพาหนะ

สำหรับเกษตรกรหัวขบวน ธ.ก.ส. ที่ไปศึกษาดูงานครั้งนี้ มีทั้งหมด 10 คน เป็นเกษตรกรตัวแทนมาจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ละคนก็ได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การมาศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีมาก แม้ว่าสภาพภูมิประเทศอาจไม่เหมือนกัน ไม่สามารถเลียนแบบกันได้ แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้

ผู้สนใจติดตามรายละเอียดการศึกษาดูงานของเกษตรหัวขบวน ธ.ก.ส. ได้ในตอนต่อไปนะครับ

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated