การเดินทางมายังดินแดนโคบาล ลพบุรี-นครราชสีมา กับ กรมปศุสัตว์ เที่ยวนี้ “เกษตรก้าวไกล” ได้พบเห็นอาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานก้าวหน้าก้าวไกลไปมากทีเดียว…จากการเยี่ยมชมกิจการสหกรณ์เลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์กสวนมะเดื่อ จำกัด ก็มาที่สหกรณ์โคนมด่านขุนทด จำกัด และปิดท้ายวันก็ได้พบกับเกษตรกรเลี้ยงโคนมเจ้าของ “ณคร ฟาร์ม” ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงขณะนี้

คุณนคร เปิดใจอาชีพเลี้ยงโคนม กับคณะสื่อมวลนชนสัญจร...นำโดย คุณสรุเดช สมิเปรม รองอธิบดี กรมปศุสัตว์
คุณนคร เปิดใจอาชีพเลี้ยงโคนม กับคณะสื่อมวลนชนสัญจร…นำโดย คุณสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดี กรมปศุสัตว์

“ณคร ฟาร์ม” เป็นฟาร์มโคนมขนาดกลาง ตั้งอยู่ที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เจ้าของเป็นเกษตรกรหนุ่มอายุ 38 ปี มีนามว่า “นคร กาบขุนทด” เขาใช้เวลาเพียง 3 ปี ในการก้าวสู่อาชีพเลี้ยงโคนม แต่หลายคนก็ยอมรับเขา และกรมปศุสัตว์หมายมั่นปั้นมือว่าจะให้เป็นฟาร์มโคนมต้นแบบเพื่อเป็นสถานที่ศึกษาดูงานอีกแห่งหนึ่ง

ด้านหน้าของ ณคร ฟาร์ม มีป้ายบอกไว้
ด้านหน้าของ ณคร ฟาร์ม มีป้ายบอกไว้

คุณนคร เล่าว่าตัวเขาผันตัวเองจากพนักงานประจำเป็นช่างอิเล็กทรอนิกส์ มาสู่การทำอาชีพเกษตรกรรมเพียงเพราะเบื่อการทำงานเป็นพนักงานประจำ และอยากมีอาชีพเป็นของตนเอง “เดิมทีนั้นผมทำงานเป็นพนักงานประจำด้านอิเล็กทรอนิกส์ ทำมาเป็น 10 ปี ก็รู้สึกอิ่มตัวแล้วอยากกลับมาอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดนครราชสีมา” โดยศึกษาหาอาชีพว่ามีอะไรในท้องถิ่นที่ทำได้บ้าง ก็มาสะดุดกับอาชีพการเลี้ยงวัวนมซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน และได้ไปศึกษาลู่ทางกับเพื่อนเกษตรกรที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน สุดท้ายจึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงโคนมอย่างจริงจังเปิดใจโคบาลหนุ่มแห่งด่านขุนทด เน้นเลี้ยงโคนมตามธรรมชาติ

โดยเริ่มต้นจากโคนม 7 ตัว และค่อยๆ เพิ่มมาเป็น 12 และตายไป 2 ตัว เหลือ 10 ตัวในปีแรก (ปีแรกนั้นต้องลงทุนประมาณ 6 แสนบาท รายละเอียดเพิ่มเติมจะอยู่ในคลิป https://youtu.be/3NBkQ6OMtvY โดยวิธีการเลี้ยงก็ศึกษาตามอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม และเลี้ยงในแบบที่ตนเองเข้าใจ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ วัวป่วย กินอาหารไม่ได้ สิ่งสำคัญจากการทำบัญชีฟาร์มตัวเลขของรายรับและรายจ่ายใกล้เคียงกันมาก ทำให้ตนรู้สึกท้อถอยและอยากจะเลิกอาชีพนี้

“แต่ด้วยความบังเอิญได้ไปรู้จักกับหมอ(สัตวแพทย์)ที่รักษาวัวนมท่านหนึ่งของกรมปศุสัตว์ ท่านได้เข้ามาแนะนำวิธีการเลี้ยงวัวนมโดยเน้นเลี้ยงแบบธรรมชาติ เพื่อลดการเจ็บป่วยของโคนมให้น้อยลง เพราะต้นทุนการรักษาวัวนมค่อนข้างมีต้นทุนที่สูง ถ้าหากสามารถปฏิบัติดูวัวนมด้วยวิธีธรรมชาติได้ก็จะช่วยให้สุขภาพวัวนมดีและให้น้ำนมคุณภาพ” คุณนคร กล่าว

มีแปลงปลูกหญ้าและรถตัดหญ้าเป็นของตนเอง
มีแปลงปลูกหญ้าและรถตัดหญ้าเป็นของตนเอง

ทั้งนี้ การเลี้ยงในแบบธรรมชาติสิ่งสำคัญก็คือการดูแลเรื่องอาหาร “เน้นบริหารจัดการในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง” โดยปลูกพืชอาหารโคนมเองและปรุงอาหารในสูตรเฉพาะที่เหมาะสมกับโคนมแต่ละช่วงอายุ นอกจากช่วยลดต้นทุนการผลิตแล้ว หลักสำคัญทำให้วัวนมมีสุขภาพที่ดีแข็งแรงให้น้ำนมดีและไม่ป่วย โดยฟาร์มจะมีพื้นที่ 25 ไร่ (พื้นที่ฟาร์มเลี้ยงประมาณ 5ไร่) พื้นที่ที่เหลือแบ่งมาปลูกหญ้าเนเปียร์ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จำนวน 10 ไร่ ซึ่งในการปลูกนั้นจะใช้ปุ๋ยมูลสัตว์อย่างเดียว และมีระบบน้ำไว้ใช้ในแปลงตลอดทั้งปี ด้วยการขุดบ่อน้ำขนาด 3 ไร่ ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ใช้แทนพลังงานน้ำมันในการสูบน้ำ และพื้นที่ที่เหลือยังปลูกข้าว นำฟางข้าวมาเลี้ยงโคนม แต่ถ้าเป็นในส่วนของกากถั่วเหลือง และถั่วอบ ฟาร์มจะซื้อจากตลาดเพราะไม่สามารถผลิตได้ แต่ก็อยู่ในปริมาณที่ไม่มาก ซึ่งหลังจากตนได้หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพของวัวนมด้วยการเน้นปลูกพืชอาหารสัตว์เอง ผสมอาหารให้วัวนมของฟาร์มเอง และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะถ้าจำเป็นก็ใช้น้อยที่สุด ทำให้วัวนมให้น้ำนมดีทั้งคุณภาพและปริมาณ โดยมีสูตรเฉพาะการเลี้ยงโคนมที่ช่วยทำให้วัวนมมีน้ำนมดี มีสุขภาพแข็งแรง

โรงรีดนม...คุณอัญธิกา กาบขุนทด ภรรยาจะทำหน้าที่นี้
โรงรีดนม…คุณอัญธิกา กาบขุนทด ภรรยาจะทำหน้าที่นี้

ปัจจุบันปีนี้เป็นปีที่ 3 ที่เลี้ยงวัวนม “นคร ฟาร์ม” มีวัวนมทั้งหมด 44 ตัว (โคนมพันธุ์โฮลส์ไตน์ฟรีเชี่ยน หรือพันธุ์ขาว-ดำ) วัวรีดนมได้ 22 ตัว รีดนมได้วันละ 380 กิโลกรัม เฉลี่ยปีหนึ่งรีดนมได้ 18 ลิตร/ตัว/วัน ผลผลิตน้ำนมดิบทั้งหมดส่งให้สหกรณ์โคนมด่านขุนทด ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 18.50 บาท

“จากการคิดคำนวณต้นทุนการผลิตพบว่าต้นทุนการผลิตลดลงมาก ตัวเลขรายรับรายจ่ายมีสัดสวนที่น่าพอใจมีรายได้หลักกว่าแสนบาทต่อเดือน (รายได้หักค่าใช้จ่ายได้รับทราบจากภรรยาคุณนคร ซึ่งทำหน้าที่บัญชี/เรียนจบบัญชี คงเหลือเดือนละประมาณ 1.5 แสนบาท/เดือน) ทำให้มองเห็นว่าสามารถสร้างความยั่งยืนได้ในอาชีพ ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานที่พระองค์ท่านได้มองเห็น และในส่วนของผมจะขยายแปลงปลูกหญ้าเนเปียร์ออกไปอีก เนื่องจากยังไม่เพียงพอกับจำนวนโคนมที่เลี้ยงเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ และการเลี้ยงวัวนมคิดว่าจะยืนอยู่ได้อย่างมั่นคง หากเรามีความรู้และเข้าใจโคนมที่เลี้ยง และพร้อมที่จะเปิดให้เพื่อนๆ เกษตรกรเข้ามาศึกษาดูงานได้”

นี่คือความเป็นไปของโคบาลหนุ่มเลือดนักสู้ 100% ที่พร้อมจะพัฒนาอาชีพให้มีความยั่งยืนต่อไป

ภายในฟาร์มจะติดตั้งระบบโซล่าเซลล์เพื่อลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้า
ภายในฟาร์มจะติดตั้งระบบโซล่าเซลล์เพื่อลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้า
คุณพ่อจิระศักดิ์ และคุณแม่พรทิพย์ กาบขุนทด จะมาช่วยเลี้ยงเสริมในบางช่วง
คุณพ่อจิระศักดิ์ และคุณแม่พรทิพย์ กาบขุนทด จะมาช่วยเลี้ยงเสริมในบางช่วง
SIMA_webbanner_468x90_TH_animated