เดินทางกันไปแต่เช้า เป้าหมายวันนี้อยู่ที่บ้านพระแก้ว อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพเมืองฟ้าอมร… สยามคูโบต้า ยินดีต้อนรับคณะสื่อมวลชนทุกท่าน” เสียงประกาศผ่านไมโครโฟนดังก้องทุ่งนา ในขณะที่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับเดินมาทักทายและกุลีกุจอให้นั่งบนกองฟาง(ต้นข้าวแห้งอัดเป็นท่อนๆ) ที่ปูทับด้วยผ้าข้าวม้าผืนสวย โดยใช้พื้นที่ตรงลานหน้าบ้านของเกษตรกรชาวนา…

แถลงข่าวกันที่ลานหน้าบ้านของเกษตรกรชาวนา...
แถลงข่าวกันที่ลานหน้าบ้านของเกษตรกรชาวนา…

เป็นบรรยากาศการแถลงข่าวที่โดนใจสุดๆ ชาวนาเจ้าของบ้าน แอบนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงหน้า เขาชื่อ “บุญฤทธิ์ หอมจันทร์” ด้านขวาของเขาคือ คุณสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่นจำกัด ถัดไป คุณเอนก สุธา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท และขวาสุดคือ คุณต้อม ฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นผู้ดำเนินรายการ ส่วนด้านซ้ายก็คือ คุณปรารถนา สุขศิริ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท

คุณสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ ผู้บริหารสยามคูโบต้า นำแถลงข่าว...
คุณสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ (เสื้อขาว) ผู้บริหารสยามคูโบต้า นำแถลงข่าว…

คุณสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ ผู้บริหารสูงสุดที่เป็นคนไทยของสยามคูโบต้า กล่าวว่า สยามคูโบต้าตระหนักดีว่า การปลูกข้าวด้วยวิธีการทำนาดำและนาหยอด ช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพและได้พันธุ์ข้าวที่บริสุทธิ์ อีกทั้งยังช่วยเกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสามารถบำรุงรักษาต้นข้าวได้ง่าย จึงได้มีการส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวคุณภาพสูงด้วยวิธีการใช้รถดำนาและรถหยอดข้าว ทดแทนการทำนาหว่าน อย่างเช่นพื้นที่กลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านพระแก้ว อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ที่ได้นำสื่อมวลชนมาดูในวันนี้ เป็นเป้าหมายหนึ่งที่ต้องการทำให้เป็นตัวอย่างเพื่อขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นๆ

“จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตชลประทาน เหมาะแก่การการทำนา แต่เกษตรกรบางส่วนยังคงประสบปัญหาการทำนาที่มีปัจจัยการผลิตสูง ทั้งค่าจ้างแรงงาน ค่าเมล็ดพันธุ์ รวมถึงค่าบำรุงรักษา จึงได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่เปลี่ยนจากการทำนาหว่าน มาเป็นนาดำและนาหยอด ด้วยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยเฉพาะข้าวคุณภาพ GAP ที่รัฐบาลได้สนับสนุนให้เกษตรกรเพาะปลูกอยู่ในขณะนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว

สยามคูโบต้า ประกาศความพร้อม...ส่งเสริมเกษตรกรในกลุ่มนาแปลง
สยามคูโบต้า ประกาศความพร้อม…ส่งเสริมเกษตรกรในกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านพระแก้ว

สำหรับแนวทางการส่งเสริมเกษตรกรในกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านพระแก้ว บริษัทฯ ได้ร่วมกับร้านค้าผู้แทนจำหน่ายในจังหวัดชัยนาท และหน่วยงานราชการในพื้นที่ ลงพื้นที่ให้ความรู้และทำแปลงส่งเสริมการปลูกข้าวด้วยวิธี KUBOTA (Agri) Solutions-KAS มุ่งเน้นการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในการเพาะปลูก ทั้งรถดำนา ที่ช่วยให้ความลึกในการปักดำต้นกล้ามีความสม่ำเสมอกัน และมีระยะที่เหมาะสมกับต้นข้าวในแต่ละพันธุ์ ส่วนการใช้รถหยอดข้าว จะช่วยให้เกษตรกรลดการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวลงได้ ต้นข้าวเรียงกันเป็นแถวสวยงาม ง่ายต่อการบำรุงรักษา ซึ่งรถหยอดข้าวคูโบต้ารุ่น DS10 (ที่นำมาโชว์อยู่ด้านขวาของที่นั่งแถลงข่าว ส่วนด้านซ้ายนั้นเป็นรดดำนา) ยังสามารถฉีดยาพ่นคุมวัชพืชไปพร้อมกันได้ เป็นการรวมขั้นตอนการปลูกและฉีดยาคุมวัชพืชให้เหลือเพียงขั้นตอนเดียว โดยทั้ง 2 แนวทางนี้ ล้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ดี ข้าวแตกกอสมบูรณ์ ได้จำนวนเมล็ดข้าวต่อรวงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพ

รถหยอดข้าว มองจากด้านหลัง
รถหยอดข้าว มองจากด้านหลัง…สาธิตการฉีดยาป้องกันวัชพืช

ทางด้าน คุณเอนก สุธา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กล่าวว่า ชาวนาจังหวัดชัยนาทส่วนใหญ่ปลูกข้าวเจ้าทั่วไป ข้าวที่โรงสีนิยมคือข้าวปทุมธานี 1 สัดส่วน 50 ต่อ 50 กับข้าวเจ้าทั่วไป พื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 10% เป็นพื้นที่ปลูกเพื่อทำเมล็ดพันธุ์ไว้ขายในจังหวัดใกล้เคียง และที่ผ่านมาได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต การใช้เครื่องจักรกลเกษตรเข้ามาเป็นตัวช่วย เช่นเดียวกับ คุณปรารถนา สุขศิริ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท กล่าวว่าชาวนาเริ่มตื่นตัวในเรื่องการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตและเน้นการทำนาข้าวคุณภาพมากขึ้น มีการส่งเสริมเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี แต่เกษตรกรก็ยังนิยมการทำนาแบบหว่าน ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวปริมาณที่สูงมาก ไม่เชื่อว่าว่าการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว 10 กิโลกรัมต่อไร่ จะได้ผลผลิตข้าวเท่ากับการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว 20 กิโลกรัมต่อไร่(ตามที่ปลูกแบบดั้งเดิม) ซึ่งก็ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการทำนาแบบปราณีตต่อไป

คุณบุญฤทธิ์ หอมจันทร์ "นี่คือแปลงนาของผมครับ"
คุณบุญฤทธิ์ หอมจันทร์-ชาวนาผู้กล้าเปลี่ยน “นี่คือแปลงนาของผมครับ”

ในขณะที่ คุณบุญฤทธิ์ หอมจันทร์ “ชาวนาผู้กล้าเปลี่ยน” ในฐานะเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของแปลงนาที่มาเยี่ยมชมวันนี้ ซึ่งยังมีฐานะเป็นรองประธานกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านพระแก้วอีกด้วย กล่าวว่า ย้อนไปเมื่อปีที่ผ่านมา สยามคูโบต้าได้เข้ามาส่งเสริมการปลูกข้าวให้แก่เกษตรกรในกลุ่ม โดยให้เปลี่ยนจากการทำนาหว่าน ที่ตนเองคุ้นเคยมากว่า 30 ปี มาเป็นการทำนา ด้วยเครื่องหยอดข้าวและรถดำนา ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ส่งเสริม พบว่าได้ผลผลิตที่น่าพอใจ ช่วยลดต้นทุนได้มาก โดยได้ผลผลิตในปริมาณ 932 กิโลกรัม/ไร่ และได้กำไรประมาณ 5,345 บาท/ไร่ ซึ่งต่างจากการทำนาหว่าน ที่ได้ผลผลิตเพียง 670 กิโลกรัม/ ไร่ และได้กำไรประมาณ 3,058 บาท/ไร่

“สมัยที่ผมทำนาหว่าน ต้นข้าวจะมีความหนาแน่นเยอะมาก ทำให้บำรุงรักษายาก ยิ่งในขั้นตอนของ การการกำจัดวัชพืชและแมลง ต้องใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก ส่งผลให้ต้นทุนสูงถึง 4.9 บาท/กิโลกรัม ต่างจากการทำนาโดยใช้เครื่องหยอดและรถปักดำ ที่ใช้ต้นทุนเพียง 3.6 – 3.8 บาท/กิโลกรัม เพราะว่ามีการใช้ เครื่องหยอดและรถปักดำในขั้นตอนการปลูก ทำให้ต้นข้าวเป็นแถวสวยงาม เรียงรายกันเป็นระเบียบ บำรุงรักษาได้ง่าย และต้นข้าวไม่ต้องแย่งปุ๋ยเวลาเจริญเติบโต ส่งผลให้ความสูงของต้นข้าวสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังช่วยลดการใช้เมล็ดพันธุ์ให้เหลือเพียง 8-10 กิโลกรัม/ไร่ ต่างจากการทำนาหว่านที่ใช้เมล็ดพันธุ์สูงถึง 20 กิโลกรัม/ไร่” คุณบุญฤทธิ์ กล่าว

สาธิตรถหยอดข้าวให้คณะสื่อมวลชนชม...
สาธิตรถหยอดข้าวให้คณะสื่อมวลชนชม…

ในตอนท้าย คุณสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ ผู้บริหารสยามคูโบต้า กล่าวว่า ภายหลังจากการนำร่องให้กลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านพระแก้ว โดยเฉพาะในแปลงนา คุณบุญฤทธิ์ หอมจันทร์ จากการทำนาหว่านมาเป็นนาดำ และนาหยอด จนได้ผลสำเร็จที่ดี ได้มีเป้าหมายว่าในปี 2562 จะขยายผลให้แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกลุ่มนาแปลงใหญ่บ้านพระแก้ว จำนวน 1,000 ไร่ เปลี่ยนวิธีจากการทำนาหว่านมาเป็นนาดำและนาหยอดทั้งหมด (โครงการ ZERO Broadcast) เพื่อลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และลดการใช้สารเคมีให้น้อยลง

เจ้าหน้าที่กำลังอธิบายการทำนาแบบใช้รถดำนาและรถหยอดข้าว...
เจ้าหน้าที่กำลังอธิบายการทำนาแบบใช้รถดำนาและรถหยอดข้าว…

หลังจากการแถลงข่าวจบลง ผู้บริหารสยามคูโบต้า ได้นำสื่อมวลชนไปดูสาธิตการใช้เครื่องหยอดข้าวที่ลานข้างบ้านเกษตรกรและเมื่อเข้าใจหลักการทำงานดีแล้วก็ได้พาไปลงแปลงนาจริง ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่ประจำการคอยอธิบายอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเชิญชวนชื่อมวลชนให้ทดลองขับเครื่องหยอดข้าวที่เป็นจักรกลเกษตรตัวใหม่ล่าสุด รวมทั้งรถดำนาที่เป็นขวัญใจเกษตรกรชาวนามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

สื่อมวลชนทำลองขับรถหยอดข้าว...
สื่อมวลชนทำลองขับรถหยอดข้าว…

สื่อมวลชนที่ได้ทดลองขับต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การทำนาสมัยใหม่ไม่เหนื่อยยากลำบากเหมือนชาวนารุ่นอดีต “ทำนาสบายมากค่ะ” โดยเฉพาะบางคนนั้นมีพ่อแม่เป็นชาวนา “มีเงินจะซื้อให้พ่อสักคันค่ะ” เป็นอันว่าการทำนาสมัยใหม่ สะดวกสบายขึ้นเยอะ ไม่ต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินอยู่ในนานานสองนาน…เอาเวลาที่เหลือไปวางแผนการขายและการตลาดดีกว่า จริงไหมครับ

"เกษตรก้าวไกล" (คนกลาง) กำลังได้รับคำอธิบายเรื่องการทำนาดำ กับนาหว่าน (แปลงนาที่อยู่ตรงหน้า แปลงหนึ่งเป็นนาดำ และแปลงหนึ่งเป็นนาหว่าน)
“เกษตรก้าวไกล” (คนกลาง) กำลังได้รับคำอธิบายเรื่องการทำนาดำ กับนาหว่าน (แปลงนาที่อยู่ตรงหน้า แปลงหนึ่งเป็นนาดำ และแปลงหนึ่งเป็นนาหว่าน)
แปลงซ้ายคือนาดำ...แปลงขวาคือนาหว่าน (นาหว่านที่เห็นวันนี้กำลังประสบปัญหาข้าวมีสีเหลือง)
“แปลงขวามือผมคือนาดำ(เพิ่งดำเสร็จใหม่ๆ)…แปลงซ้ายคือนาหว่านครับ” (นาหว่านที่เห็นวันนี้กำลังประสบปัญหาข้าวมีสีเหลือง)

#LIVE ทดลองขับเครื่องหยอดข้าว https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/2179595742360105/

#LIVE สาธิตทำนาหยอดและนาดำ https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/296278224338089/

#คลิป ชาวนาผู้กล้าเปลี่ยน… https://www.facebook.com/kasetkaoklai/videos/505274606638216/

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated