“เงาะแปลงใหญ่โรงเรียนนาสาร”
“เงาะแปลงใหญ่โรงเรียนนาสาร”

อำเภอนาสาร ถือว่าเป็นแหล่งผลิตเงาะที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพราะมีสภาพอากาศที่เหมาะสม  โดยเฉพาะตำบลเพิ่มพูนทรัพย์ เป็นพื้นที่ที่มีแหล่งยิปซั่มปริมาณมาก ส่งผลให้การผลิตเงาะออกมามีผลโต กรอบร่อน หอมหวานอร่อยกว่าที่อื่น  ที่สำคัญต่อรองราคาได้สูงกว่าท้องตลาด เพราะมีการจัดการเรื่องเกษตรแปลงใหญ่ตามนโยบายรัฐบาล  มีการบริหารจัดการเพิ่มคุณภาพและผลผลิต สามารถต่อรองพ่อค้าได้ เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัดในช่วงสามปีที่ผ่านมา

นายวารินทร์ เพชรโกษาชาติ
นายวารินทร์ เพชรโกษาชาติ

นายวารินทร์ เพชรโกษาชาติ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่เงาะโรงเรียน  ประธานวิสาหกิจชุมชนไม้ผลตำบลเพิ่มพูนทรัพย์ ณ ศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตำบลเพิ่มพูนทรัพย์ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าว่า “เงาะโรงเรียนเป็นผลไม้ของดีขึ้นชื่อของบ้านนาสาร อ.นาสาร จ.สุราษฎร์ธานี อ.บ้านนาสาร เป็นพื้นที่ที่มี “ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ” ใต้พื้นดินประกอบด้วยแร่บนดินมีผลไม้เงาะพันธุ์ต้นแรกของประเทศไทย”

เปิดกลยุทธ์วิเคราะห์ค่าดิน “เงาะแปลงใหญ่โรงเรียนนาสาร” เพิ่มผลผลิต 7เท่าตัว!“ประวัติความเป็นมาของเงาะพันธ์อร่อยเลื่องชื่อนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2480 นายเคหว่อง เป็นชาวปินัง ได้เดินทางมาทำกิจการเหมืองแร่ดีบุก ที่ อ.บ้านนาสาร โดยทำเหมืองที่บ้านเหมืองแกะและที่บ้านขุนทองหลาง พักอาศัยอยู่ริมทางรถไฟ (ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงเรียนนาสาร) นายเคหว่อง ได้นำเงาะพันธุ์พื้นเมืองของปินังมานั่งรับประทานแล้วได้ทิ้งเมล็ดไว้ (เงาะปินัง ผลใหญ่ ลักษณะทรงรี เปลือกหนา มีผลสีแดงเข้ม ไม่หวาน) ด้วยเหตุของดินที่ดีและมีความชุ่มชื้น อุณหภูมิพอเหมาะ ทำให้เมล็ดที่ถูกทิ้งไว้ งอกขึ้นมาประมาณ 3 ต้น เมื่อนายเคหว่อง เลิกกิจการเหมืองแร่ ได้ขายบ้านพักพร้อมที่ดินให้กับทางราชการ ต่อมาทางราชการได้ตั้งเป็นโรงเรียนชื่อโรงเรียน “นาสาร” โดยมี ครูแย้ม พวงทิพย์ เป็นครูใหญ่ ต้นเงาะทั้ง 3 ต้น ได้เจริญงอกงาม ใหญ่โตขึ้นจากดินที่อุดมสมบูรณ์และต่อมาได้ออกดอกติดผล  มีอยู่ต้นหนึ่ง ผลของเงาะมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ซึ่งแตกต่างจากพันธุ์ นำไปให้กับพี่น้องชาวนาสารปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ และได้ขยายพันธุ์ไปยังจังหวัดต่างๆ โดยตั้งชื่อจากแหล่งกำเนิด คือโรงเรียนนาสาร จึงใช้ชื่อว่า “เงาะโรงเรียน”…”

เปิดกลยุทธ์วิเคราะห์ค่าดิน “เงาะแปลงใหญ่โรงเรียนนาสาร” เพิ่มผลผลิต 7เท่าตัว!

นายวารินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับเกษตรกรเงาะแปลงใหญ่ ตำบลเพิ่มพูลทรัพย์ จะมีสมาชิก 118 ราย รวมตัวบนพื้นที่ 1,163 ไร่ ร่วมกันจัดการบริหารเรื่องน้ำ ดิน ปุ๋ย และ ควบคุมสารเคมี ทำให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพมากกว่าที่อื่น เงาะที่นี้จะใช้วิธีการตัดแต่งกิ่งให้แดดส่องถึง 20 % กิโลกรัม มีการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม ด้วยวิธีการวิเคราะห์ค่าดิน เนื่องจากว่าเป็นแปลงปลูกโซนใหญ่ ในดินมีธาตุฟอสฟอรัสสูงถึง 52 % จึงใส่ปุ๋ย 32-0-26 การใส่ปุ๋ยจากการวิเคราะห์ค่าดิน ส่งผลให้เงาะที่นี้ลูกใหญ่  มีขนาดผลใหญ่ 22-24 ผลต่อกิโลกรัม

“ระยะสองถึงสามปีที่ผ่านมาผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เป็นปีละ 4,000 – 7,000 กิโลกรัมต่อไร่ จากก่อนหน้าที่ไม่ได้รวมตัวเป็นแปลงใหญ่เกษตรกรมีผลผลิต ไร่ละ 1,000-2,000 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการร่วมคิดรวมกันแก้ปัญหาของสามชิกกลุ่มเงาะแปลงใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลโรคและแมลง การวิเคราะห์ค่าดิน ใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม” นายวารินทร์ กล่าว

เปิดกลยุทธ์วิเคราะห์ค่าดิน “เงาะแปลงใหญ่โรงเรียนนาสาร” เพิ่มผลผลิต 7เท่าตัว!

จากคุณภาพผลผลิตที่ดี ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในแต่ละปีมีไม่พอขาย ประเทศที่รับซื้อจะมีสิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน ส่วนในประเทศจะถูกจับจองจากห้างค้าปลีกใหญ่ๆไม่ว่าจะเป็น โลตัส  เดอะมอลล์ บิ๊กซี อื่นๆ

และที่สำคัญเงาะแปลงใหญ่ มี GAP หรือการผลิตพืชให้ได้มาตรฐานปลอดภัย ปลอดสตรูพืช คุณภาพถูกใจ รองรับเป็นที่เรียบร้อย จากหน่วยงานตรวจสอบ กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวคือ ก่อนผลผลิตออกสู่ตลาดจะมีเจ้าหน้าที่  จากศูนย์พัฒนาควบคุมสารเคมี เข้ามาตรวจเรื่องสารเคมีตกค้าง ในทุกขึ้นตอนการผลิต

เปิดกลยุทธ์วิเคราะห์ค่าดิน “เงาะแปลงใหญ่โรงเรียนนาสาร” เพิ่มผลผลิต 7เท่าตัว!

นี้คือ ผลพิสูจน์ข้อดีของการรวมกลุ่มชาวสวนเงาะแปลงใหญ่ เป็นการร่วมกันแก้ปัญหา แลกเปลี่ยนความรู้เพิ่มผลผลิตและความได้เปรียบการต่อรองราคาขายและยังขยายช่องทางการขายที่กว้างขึ้น เกษตรกรหน้าใหม่สนใจไปเยี่ยมชมดูงานได้ที่ ศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตำบลเพิ่มพูนทรัพย์ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated