เรื่องโดย : วาสนา เพิ่มสมบูรณ์
คุณชดาภา วรอมราคุณ หรือ “คุณโบ” วัย 35 ปี เป็นแม่ค้ารับซื้อข้าวโพดหวานหรือข้าวโพดฟักสด ที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของ จ.ชลบุรี เธอเริ่มจากการเป็นเกษตรกร และกิจการเล็กๆ จนสามารถส่งเสริมให้ลูกไร่ปลูกข้าวโพดถึง 100 ราย (ใช้พันธุ์ข้าวโพดหวาน ของบริษัทแปซิฟิคเมล็ดพันธุ์) มีปริมาณการซื้อขายถึงวันละ 3 ตัน (3,000 กิโลกรัม) เธอทำได้อย่างไร?…
”เกษตรก้าวไกล” จะอาสาพาไปพูดคุยถึงไร่ข้าวโพดที่ จ.ชลบุรี ณ บัดนี้
ประวัติชีวิต
โบเป็นคน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เรียนจบ ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กลับมาช่วยกิจการที่บ้าน ทำเกษตรปลูกไม้ยูคาลิปตัส ปลูกอ้อย เลี้ยงโคนม ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี และมีโรงงานทำข้าวโพดกระป๋อง แต่ปัจจุบันเลิกผลิตข้าวโพดแล้ว ตอนนั้น (ปี 2548) โบเข้าไปซื้อเปลือกข้าวโพดมาให้โค นมได้รู้จักกับพี่สมชาย วรนาม (สามี) พี่เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ส่งเสริมอยู่แผนกจัดซื้อในโรงงาน ช่วงนั้นที่บ้านเลิกทำอ้อย หันมาปลูกยางพารา 70 ไร่
ช่วงที่ปลูกยางปีแรกต้องการหาพืชมาปลูกระหว่างกลางร่องยาง เห็นว่าข้าวโพดฝักสดน่าจะดี จึงได้ติดต่อกับโรงงานข้าวโพดที่พี่สมชายทำงานอยู่เพื่อปลูกข้าวโพดส่งโรงงาน พี่สมชายมาช่วยแนะนำส่งเสริมเราเริ่มสนิทกัน โบเริ่มรู้จักกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดส่งโรงงานหลายกลุ่ม พวกเขาเจอปัญหาคล้ายคล้ายกัน คือ เรื่องเงิน ข้าวโพดที่ส่งเข้าโรงงานจะไม่ได้เงินสดเลย ใช้เวลา 20 ถึง 30 วันกว่าเงินจะเข้าบัญชี
จุดหันเห
เกษตรกรต้องการใช้เงินเพื่อไปลงทุนต่อ โบก็เป็นเหมือนคนกลางระหว่างโรงงานกับเกษตรกร รับรู้ถึงความเดือดร้อน ความต้องการของกลุ่มเกษตรกรพี่สมชายแนะนำให้ไปเปิดโควตาในโรงงาน รับซื้อข้าวโพดเข้าโรงงาน ตอนนั้นโบเริ่มลงเมล็ดพันธุ์ให้เกษตรกรใน จ.นครสวรรค์ รับซื้อโดยจ่ายเงินสดหน้าไร่ บวกกำไรค่าจัดการประมาณ 1 บาทต่อกิโลกรัม ทำได้ประมาณ 3-4 เดือนเริ่มไม่ไหว ขาดทุน ช่วงนั้นน้ำมันแพงมากลิตรละ 40 กว่าบาท โรงงานตัดคุณภาพข้าวโพด น้ำหนักหายจากการระเหยเพราะใช้เวลา 1-2 วันจอดรอคิวที่โรงงาน โบจึงเริ่มเอาข้าวโพดเข้าตลาดผักสดตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ส่งให้แม่ค้าบ้างขายเองบ้าง คุ้มกว่าเข้าโรงงาน
![ปอกเปลือกชีวิต “แม่ค้ารับซื้อข้าวโพดหวาน” บริหารลูกไร่ 100 รายอย่างไรให้อยู่ได้?](http://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/06/20170519_102613-500x281.jpg)
บ้านโดนยึด
ช่วงนั้นขาดทุนเยอะ โบเลยหยุดส่งโรงงาน เอาเข้าตลาดอย่างเดียว ก็เจอปัญหา เรื่องฝัก ขนาดฝักเล็กไป ขายไม่หมด บางวันก็แทบขาดทุนกับฝักที่เหลือ เลยเอามาปอกขายใส่ถุง ถุงละ 20 บาทตามตลาดนัดแถวบ้าน ตลาดสดบ้าง ช่วงนั้นอะไรที่พอจะได้เงินต้องทำหมด เพราะไม่มีเงิน ล้มลุกคลุกคลาน
ชีวิตช่วงหลังแย่มากไม่มีเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ทุกอย่างกำลังจะโดนยึด มีแต่ใบทวงถามหนี้ บ้านก็โดนขายทอดตลาด ทำเรื่องประนอมหนี้ และหลังจากที่เริ่ม ปอกขายถุงละ 20 บาท รู้สึกตื่นเต้นคือได้กำไรดีกว่าที่ขายในตลาดแบบส่งแม่ค้าอีก ขายน้อยกว่าแต่ได้กำไรมากกว่า ตอนนั้นไม่ได้ลงเมล็ดพันธุ์ที่นครสวรรค์แล้ว ทุนไม่มี พอรู้ว่าทำแบบนี้ดี ก็เลยวิ่งซื้อข้าวโพดเบอร์เล็ก เบอร์เหมาที่ตลาดไท มาปอกขาย เป็นช่วงที่พี่สมชายออกจากโรงงานมาช่วยโบ (ปี 2550) เข้าตลาดไท ตลาดสี่มุม เริ่มรู้จักช่องทางรู้จักแม่ค้า
![ปอกเปลือกชีวิต “แม่ค้ารับซื้อข้าวโพดหวาน” บริหารลูกไร่ 100 รายอย่างไรให้อยู่ได้?](http://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/06/20170519_121843-500x281.jpg)
จุดเริ่มต้มข้าวโพดขาย
ตอนนั้นมีติดต่อวิ่งส่งข้าวโพดให้แม่ค้าขายส่งในชลบุรีบ้างเป็นครั้งคราว เพราะจะต้องไปซื้อข้าวโพดมาปอกอยู่แล้ว แต่ก็เจอปัญหาอีกเพราะปอกขายช่วงแรกก็ดี ลูกค้าซื้อดี แต่พอขายซ้ำๆ บ่อยๆ ก็ขายยากขึ้น มีแม่ค้าด้วยกัน แนะนำให้ต้มขาย ก็เริ่มต้มขาย ครั้งแรกที่ต้ม ต้มแค่ 50 กิโลกรัม ตื่นเต้นดีใจมากที่ได้กำไรมากกว่าปอก หลังจากนั้นก็เริ่มต้มขายอย่างเดียว ตอนนั้นไม่มีข้าวโพดของตัวเอง ต้องซื้อจากพ่อค้าคนกลาง โดนเขาบวกกำไรเยอะ มีของเก่าปนมาให้บ้าง ก็คิดกันว่าน่าจะลงเมล็ดพันธุ์เองแต่ก็ไม่รู้จักใคร
ประตูแห่งโอกาส
พอดีมีสวนข้าวโพดโทรมาให้ไปซื้อที่ข้าวโพดที่ไม่มีใครซื้อ โบก็เข้าไปที่สวนเขา คุยกัน ตกลงราคา แล้วชวนเขาปลูกข้าวโพดให้ เริ่มมีลูกไร่รายแรกที่อำเภอพนัสนิคม ปัจจุบันเจ้าของสวนนี้เขาจัดการดูแลไร่จัดคิวปลูก ดูแลส่งเสริมลูกไร่ของโบ อยู่ในเขตหนองเหียง อ.พนัสนิคม ประมาณ 60 ถึง 80 ราย อยู่ในความรับผิดชอบของเราที่ต้องให้เขาทำตรงนี้ เพราะโบดูแลไม่ไหว กระจายงานให้ทำง่ายขึ้น การจัดการสะดวกขึ้น โบให้ค่าตอบแทนเขาตามจำนวนน้ำหนักของข้าวโพดที่โบซื้อ จากพื้นที่รับผิดชอบของเขา 50 สตางค์ต่อ 1 กิโลกรัม เงินที่จ่ายตรงนี้เป็นส่วนของโบที่จ่ายเองไม่ได้หักจากสวน เช่น ข้าวโพดราคา 8 บาท จ่ายสวน 8 บาท บวกให้คนดูแล 50 สตางค์ หน้าที่ตรงนี้ เขาทำมา 8 ปีแล้ว เราทำงานควบคู่กันในส่วนของการตลาด
![ปอกเปลือกชีวิต “แม่ค้ารับซื้อข้าวโพดหวาน” บริหารลูกไร่ 100 รายอย่างไรให้อยู่ได้?](http://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/06/20170519_102006-500x281.jpg)
รับซื้อข้าวโพดเต็มตัว
พอเริ่มขายก็เริ่มมีลูกค้าสนใจข้าวโพดของโบ เพราะข้าวโพดสดใหม่ทุกวันมีมาติดต่อซื้อไปต้มขายมีมาเรื่อยๆ ปัจจุบันมีประมาณ 10 รายที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี เป็นลูกค้าประจำไม่ทิ้งกัน ตลาดที่ต้องขายปัจจุบันมี 3-4 ตลาดต่อวัน จะใช้ข้าวโพดฝักสดที่ต้องต้มขายเองประมาณ 500 ถึง 700 กิโลกรัมต่อวัน ใช้ข้าวโพดที่ส่งลูกค้าต้มประมาณ 2 ตันถึง 2.5 ตันต่อวัน รวมใช้ข้าวโพดวันละประมาณ 3 ตันหรือ 3,000 กิโลกรัม แบ่งเป็นข้าวโพดหวาน 1.5 ตันถึง 2 ตัน ข้าวโพดข้าวเหนียว 500 กิโล ถึง 1 ตันต่อวัน โดยจะตัดข้าวโพดตามยอดส่งของลูกค้าเท่านั้น เน้นคุณภาพที่สดใหม่ทุกวัน
สำหรับสมาชิกที่เป็นลูกไร่ เริ่มจาก 1 ราย แล้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากคำแนะนำ คำบอกต่อของลูกไร่ด้วยกันเอง อาจมีญาติพี่น้องเพื่อนสนิทของพวกเขา ในปีแรกน่าจะมีประมาณ 20 ราย อุปสรรคปัญหาที่เจอเป็นเรื่องคุณภาพของข้าวโพดลูกไร่ใหม่ๆ ทำข้าวโพดไม่สวย ติดหนอน ฝักไม่ใหญ่ เก็บผลผลิตไม่เป็น เก็บอ่อนไปบ้าง บอกช้าไปบ้าง ข้าวโพดแก่ไป
ปัจจุบันมีลูกไร่ประมาณ 100 ราย อยู่ใน จ.ชลบุรี และจ.ฉะเชิงเทรา
ราคารับซื้อข้าวโพด
ลักษณะการดำเนินงาน มีการวางแผน จัดคิวปลูก ตกลงรายละเอียดกับลูกไร่ เช่น ข้าวโพดที่ปลูกให้กับโบต้องขายให้โบคนเดียว ไม่แอบไปขายเอง ไม่ขายให้กับแม่ค้าคนอื่น ในเรื่องของราคา ซื้อราคาขึ้นลงตามตลาด อิงราคาขายของตลาดไท เช่น ตลาดไท ขาย 8 บาท โบก็ซื้อ 8 บาท ราคาตรงนี้ไม่แน่นอนถ้าสวนเสียหายเยอะ ได้ข้าวโพดไม่เต็มที่ ก็จะช่วยไปอีก 1 บาท ต้องดูสภาพข้าวโพดและสถานการณ์ตลาดในตอนนั้น ต้องดูเรื่องคุณภาพข้าวโพดที่อ่อน หนอน ไม่ซื้อเพราะขายไม่ได้
ราคาแบ่งเป็น 2 ราคา คือ ซื้อตามเบอร์ มีเบอร์ใหญ่ (ไซด์ฝัก 3 ฝักต่อ 1 กิโล) และเบอร์เล็ก (ไซด์ 4-5 ผักต่อกิโล) เล็กกว่านี้ไม่เอา ลูกไร่ทั่วไปที่อยู่กับโบ ส่วนใหญ่จะเข้าใจเรื่องนี้ เพราะเขามีอาชีพเกษตรกรเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
คุณสมบัติของลูกไร่
คุณสมบัติของสมาชิกไม่มีอะไรมาก เน้นความซื่อสัตย์เป็นสำคัญ การทำงานของโบ เน้นแบบง่ายๆสบายๆ พูดคุยถามปัญหา ช่วยแก้ปัญหา เล่าสู่กันฟัง เจอข้าวโพดแปลงไหนสวยๆ ก็จะถามว่า เขาทำแบบไหน เก็บข้อมูลแล้วก็มาเล่ามาคุยกันในแปลงต่อๆ มาของวันใหม่ ทำวนไปเรื่อยๆทุกวัน แล้วก็ยึดหลักที่ว่าลูกไร่อยู่ได้เราอยู่ได้ ลูกค้าอยู่ได้ ซื้อราคาดีส่งไม่แพง ใจเขาใจเรา บางวันก็แทบไม่ได้กำไรส่งช่วงข้าวโพดล้นตลาด แต่ก็อยู่ได้เพราะมีกำไรจากการต้มขาย
![ปอกเปลือกชีวิต “แม่ค้ารับซื้อข้าวโพดหวาน” บริหารลูกไร่ 100 รายอย่างไรให้อยู่ได้?](http://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/06/20170519_104959-500x281.jpg)
ลูกไร่เต็มพิกัดแล้ว แต่…
สมาชิกลูกไร่ตอนนี้เต็มมาก ขยายเพิ่มยาก เพราะจำนวนข้าวโพดที่ปลูกได้ผลผลิตมากกว่าที่ขายในแต่ละวัน เป็นเหตุให้ต้องจัดคิวปลูกเพื่อป้องกันข้าวโพดล้น และจะได้มีข้าวโพดจากสวนของเราเองใช้ทุกวัน กำลังคิดหาวิธีให้สมาชิกในกลุ่มไม่ต้องรอคิวปลูก เพื่อไม่ให้เสียโอกาส ตอนนี้กำลังทำสินค้าตัวใหม่ คือน้ำนมข้าวโพดอยู่ในช่วงทดลองทำ ถ้าทำได้ แล้วติดตลาด โบก็จะมีที่ไปของข้าวโพดเพิ่มขึ้น แล้วก็ที่คิดไว้ต้นปีหน้าจะเปิดแผงขายของเป็นร้านขายส่งเมล็ดข้าวโพดเป็นหลัก มีมันเทศ ฟักทอง ถั่วลิสง ฯลฯ เป็นตัวเสริม จากที่สวนข้าวโพดปลูกแต่ข้าวโพดอย่างเดียวต่อไป จะมีการหมุนเวียนพืชให้ปลูก ตามที่เราขาย ถ้าเป็นไปตามที่คิดไว้ ทุกอย่างเข้าระบบ ก็สามารถเพิ่มสมาชิกได้
ให้ความจริงใจ
ส่วนตัวโบทำอะไรเปิดเผย รักษาคำพูด ลูกไร่ทุกคนจะรู้ตรงนี้ ก่อนจะทำอะไรทุกขั้นตอนจะถามความเห็นกันก่อน รักษาความรู้สึกของลูกไร่ ในหลายๆ เรื่อง เช่น จะบอกราคาก่อนตัดข้าวโพด ไม่ลงราคากลางสวน ช่วงที่ข้าวโพดราคาไม่ดี จะพยุงราคาสวนที่อยู่ในละแวกเดียวกันให้ได้ราคาดีเหมือนกันทุกสวนใจเขาใจเรา คนเรารู้สึกไม่ต่างกัน จะไม่ทำให้ลูกไร่เสียความรู้สึก ให้ความจริงใจ ทำเหมือนทุกคนเป็นคนในครอบครัวเรา
หัวใจของการรับซื้อ = สดใหม่ทุกวันคัดสรรทุกขั้นตอน หัวใจของการส่งเสริม = ซื้อสัตย์จริงใจเปิดเผย
![ปอกเปลือกชีวิต “แม่ค้ารับซื้อข้าวโพดหวาน” บริหารลูกไร่ 100 รายอย่างไรให้อยู่ได้?](http://www.kasetkaoklai.com/home/wp-content/uploads/2017/06/20170519_1132120-500x281.jpg)
ข้อคิดในการทำธุรกิจ
ต้องอดทนอย่ายอมแพ้ ต้องเจอปัญหาตลอดทาง มีปัญหาต้องแก้ให้ได้พยายามหาทางออกที่ไม่กระทบต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ยึดหลักใจเขาใจเรา ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะทุกคนต้องอยู่ร่วมกัน ตลอดเส้นทางต้องรักษาน้ำใจกันและกัน ต้องใช้คำว่าอภัยและยอมให้ถูกเวลา เพื่อรักษามิตรภาพของกันและกันไว้ พันธมิตรคือสิ่งสำคัญที่ต้องมีเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ หาวิธีทำให้คู่แข่งมาเป็นพันธมิตรให้ได้ ปัญหาของสมาชิกในกลุ่ม เปรียบเสมือนปัญหาของเราทุกคน ต้องอยู่ได้ไปด้วยกัน
หมายเหตุ : ใครที่อ่านแล้วอยากมีอาชีพแบบคุณโบ คือรับซื้อข้าวโพดและต้มข้าวโพดขาย ลองพูดคุยขอคำแนะนำได้ที่โทร. 080 0998910