ข่าวเกษตรก้าวไกล-จันทบุรี/วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568-สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) จัดโครงการ “สื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ ปี 2568” นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมผลสำเร็จการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี การพัฒนา “จากยอดเขา สู่ท้องทะเล” ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาอาชีพของราษฎรอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงทะเล ปัจจุบันศูนย์ฯ ได้กลายเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” และแหล่งเรียนรู้เชิงนิเวศที่สำคัญของประเทศ
เกษตรก้าวไกลLIVE- เยี่ยมชมศูนย์ศึกษาฯ อ่าวคุ้งกระเบน โมเดลขยายผลสู่ชุมชนยั่งยืน https://web.facebook.com/kasetkaoklai/videos/2010803229764672
โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้การต้อนรับพร้อมกล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี
นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. กล่าวถึงการจัดโครงการครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จและองค์ความรู้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้แก่สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ซึ่งสื่อมวลชนคือกำลังสำคัญในการถ่ายทอดพระราชปณิธานการพัฒนา สู่การรับรู้ของสังคมอย่างถูกต้องและกว้างขวางต่อไป
นางกัญญารัตน์ สุนทรา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการขยายผลสู่การปฏิบัติใช้ของราษฎรพื้นที่
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แห่งที่ 3 ก่อตั้งเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2524 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการฟื้นฟูและจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเล จากยอดเขาสู่ท้องทะเล สร้างสมดุลนิเวศ ร่วมกับพัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง โดยมีกรมประมง เป็นหน่วยงานหลักในการสนองพระราชดำริ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีพื้นที่ดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ 33 หมู่บ้านใน 2 อำเภอ 4 ตำบลได้แก่ ตำบลกระแจะ ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม และตำบลรำพัน ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
ในช่วงบ่าย คณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมพื้นที่การดำเนินงานภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ณ งานการผลิตพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง เพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำชายฝั่ง รวมทั้งส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีกิจกรรมสาธิตการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์น้ำ เช่น ปลากะพงขาว หอยชักตีน และปลาการ์ตูน ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มสัตว์น้ำเศรษฐกิจสวยงาม ต่อมาสื่อมวลชนได้เยี่ยมชมแปลงสาธิตการทำเกษตรแบบผสมผสานและการปลูกพืชผักตามฤดูกาล อีกหนึ่งความสำเร็จในการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ดินตะกอนชายฝั่งที่เคยเสื่อมโทรมให้สามารถทำการเกษตรได้ ด้วยหลักการฟื้นฟูดินควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ พร้อมกับการเลือกชนิดพืชที่เหมาะสมกับสภาพดินและภูมิสังคม นับเป็นตัวอย่างการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่ชุมชน จากนั้นคณะสื่อมวลชนจะได้สัมผัสและเยี่ยมชมความสมบูรณ์ของผืนป่าชายเลน ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ซึ่งเป็นพระราชดำริเริ่มแรกในการก่อตั้งศูนย์แห่งนี้ โดยรับฟังแนวทางการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมทั้งสัมผัสความอุดมสมบูรณ์ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนสะพานไม้ ระยะทาง 1,600 เมตร และร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่ทะเล ป่าชายเลนผืนนี้
คือความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมในการฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หลังจากที่ถูกบุกรุกทำลายจนเสื่อมโทรมอย่างหนัก ปัจจุบันป่าชายเลนแห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งขยายพันธุ์และเจริญเติบโตของสัตว์น้ำวัยอ่อน ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สวยงามในช่วงปลายฝนต้นหนาวอีกด้วย
ต่อมา คณะเยี่ยมชมงานเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเล ชมแปลงสาธิตการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นและสาหร่ายผักกาดทะเล ที่ได้รับความนิยมในตลาดอาหารสุขภาพ รวมทั้งเยี่ยมชมการเลี้ยงสาหร่ายร่วมกับสัตว์น้ำเศรษฐกิจ เช่น ปูทะเลและปลากระบอกดำ ในการบริหารจัดการฟาร์มเชิงนิเวศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเป็นต้นแบบอาชีพชุมชนที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชม “อาคารสิริพัฒนภัณฑ์” อีกหนึ่งโครงการปลายน้ำ ซึ่งเป็นสถานที่รวมผลิตภัณฑ์ของศูนย์ฯ เกษตรกรเครือข่าย และสินค้าจากชุมชน เพื่อสร้างรายได้และความมั่นคงให้แก่ชุมชนในระดับฐานราก โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานชื่ออาคารจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“สิริพัฒนภัณฑ์” ซึ่งมีความหมายว่า “ผลิตภัณฑ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นมงคล” หรือ “สิ่งของที่นำมาซึ่งความเจริญ” โดยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพดี ราคาถูก จัดจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป เช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสาหร่ายทะเล อาทิ บะหมี่สาหร่ายผักกาดทะเล ผงโรยข้าวสาหร่ายผักกาดทะเลผักม้วนสาหร่ายผักกาดทะเล เซรั่มสารสกัดจากสาหร่ายทะเล กะปิแท้และน้ำปลาแท้จากชุมชน ผักสดปลอดสารพิษจากเกษตรกรเครือข่าย งานหัตถกรรมเครื่องจักรสานจากกลุ่มแม่บ้าน เป็นต้น รวมทั้งชมการสาธิตการทำอาหารจากผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ อีกด้วย
โครงการสื่อมวลชนสัญจรครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการพัฒนาตามแนวพระราชดำริที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯได้น้อมนำมาดำเนินงานภายใต้แนวคิด “การพัฒนาจากยอดเขา สู่ท้องทะเล” ที่เชื่อมโยงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เกิดความยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน
