การเดินทางที่ยาวนานกว่า 10 ปีของเกษตรกรไทยในการปลูก “อินทผลัม” กำลังจะก้าวไปสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ หลังจากที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของราคาในตลาดภายในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

ข่าวดีจากแดนมังกร: โอกาสใหม่ในการส่งออก
ล่าสุดมีข่าวดีสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกอินทผลัม เมื่อ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตร ได้ต้อนรับคณะจากสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ GACC เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือและตรวจประเมินสวนเกษตร(แปลงปลูก)และโรงคัดบรรจุอินทผลัมในไทย
วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะผู้เชี่ยวชาญจาก GACC และกรมวิชาการเกษตรได้ลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบแปลงปลูกและโรงคัดบรรจุในจังหวัดกาญจนบุรี แม้ว่าจะมีการแนะนำให้ปรับปรุงมาตรฐานในบางจุด แต่ผลการประเมินเบื้องต้นก็เป็นที่น่าพอใจ สรุปได้ว่าอินทผลัมจากประเทศไทยมีโอกาสที่จะส่งออกไปประเทศจีนได้ แต่ยังต้องรอการจัดทำพิธีสาร ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะทันฤดูกาลผลิตในปีนี้หรือไม่

อินทผลัมไทยไปไกลถึงดูไบ
นอกเหนือจากตลาดจีนแล้ว อินทผลัมไทยยังได้รับความสนใจจากตลาดระดับโลกอีกแห่ง นั่นคือ ดูไบและตะวันออกกลาง ซึ่งในเรื่องนี้นั้น นายชยุติ โสไกร หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าเดิมทีหลายคนอาจคิดว่าการนำอินทผลัมไปขายในถิ่นกำเนิดนั้นเป็นเรื่องยาก แต่กลับกลายเป็นว่า อินทผลัมไทยมีคุณภาพดีจนสร้างความประทับใจให้กับชาวดูไบอย่างมาก



(คลิกชมคลิป การไปเปิดแสดงที่ดูไบ https://www.facebook.com/share/v/1BBJaXV1g1/)
จากงานเทศกาลอินทผลัมที่ดูไบ สวนอรวรรณฟาร์ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง ล่าสุดบริษัทผู้นำเข้าจากดูไบได้เดินทางมาดูสวน และตัดสินใจสั่งอินทผลัมพันธุ์ “เรดโจซี่” ผลสีแดงไปแล้วถึง 2 ตัน ซึ่งอินทผลัมชุดนี้ถูกจัดให้เป็นสินค้า VVIP และจะถูกนำไปวางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่งเพื่อส่งต่อให้กับเศรษฐีและผู้บริหารระดับสูงของดูไบ ซึ่งถือเป็นสินค้าคุณภาพดีที่มีจำนวนจำกัด


“ภูมิใจดีใจที่อินทผลัม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี สามารถส่งไปดูไบได้แล้ว ปีหน้าน่าจะเต็มรูปแบบ เพราะปีนี้ปลายฤดูกาลแล้ว ที่ส่งไปดูไบมีเรดโจซี่ 152 กับบาฮีสีเหลือง เขาต้องการเรดโจซี่มาก แต่ของเรามีไม่พอ” คือเสียงจากเกษตรกร

โอกาสใหม่เหล่านี้กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมอินทผลัมของไทย และเปิดประตูให้ผลผลิตจากฝีมือเกษตรกรไทยได้ก้าวสู่ตลาดโลกอย่างเต็มภาคภูมิ ฝากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยผลักดันและติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด