นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพัทลุง กรมวิชาการเกษตร ร่วมกันเดินหน้าขับเคลื่อนการอนุรักษ์และส่งเสริมพันธุกรรมพืชพื้นบ้านของไทย ผ่านโครงการส่งเสริมเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นร่วมมือกับชุมชนตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง และเทศบาลตำบลบ้านนา

ผลักดันให้ “ทุเรียนพันธุ์ทองลุงศักดิ์” ซึ่งเป็นพันธุ์ทุเรียนพื้นบ้านที่มีลักษณะดีเด่นของชุมชน ได้รับการจดทะเบียนเป็นพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542


สำหรับทุเรียนพันธุ์ทองลุงศักดิ์ ของนายสอนศักดิ์ สิทธิชัย มีลักษณะเด่นคือ เนื้อสีเหลืองทอง รสชาติหวานอร่อย เมล็ดลีบ ขนาดผลประมาณ 1.5–2 กิโลกรัม มีการปลูกอนุรักษ์เพียงชุมชนเดียวในประเทศไทย ด้วยจุดเริ่มต้นจากความรักและความหวงแหนในภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สืบทอดและปลูกฝังกันมานานกว่า 50 ปี โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพัทลุง ให้การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการบำรุงดูแล การขยายพันธุ์ การทำประวัติพันธุ์ และการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมของชุมชนในการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น ซึ่งได้รับการขยายพันธุ์และปลูกอนุรักษ์ในพื้นที่ชุมชนจำนวน 13 แปลง รวมกว่า 426 ต้น โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 จนถึงปัจจุบัน

ขณะที่นางสาวธิดากุญ แสนอุดม ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองพันธุ์พืช ประธานคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติชุมชนและพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่นที่ยื่นขอขึ้นทะเบียนชุมชนและจดทะเบียนพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรได้จัดประชุมคณะทำงานพิจารณาคุณสมบัติของชุมชนและพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมและมีมติเห็นชอบให้ชุมชนตำบลบ้านนามีคุณสมบัติตามกฎหมาย สามารถขอรับการขึ้นทะเบียนชุมชนได้ พร้อมทั้งให้ดำเนินการจัดทำข้อมูลลักษณะประจำพันธุ์ของทุเรียนพันธุ์ทองลุงศักดิ์ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อเสนอคณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชพิจารณารับจดทะเบียนต่อไป

อย่างไรก็ตามหากการจดทะเบียนทุเรียนทองลุงศักดิ์เป็นพันธุ์พืชพื้นเมืองสำเร็จ ชุมชนจะเป็นผู้ทรงสิทธิในพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น โดยมีสิทธิแต่ผู้เดียวในการปรับปรุงพันธุ์ ศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัย ผลิต ขาย ส่งออกนอกราชอาณาจักร หรือจำหน่ายส่วนขยายพันธุ์ มีอายุการคุ้มครองสิทธิเป็นระยะเวลา 17 ปี และขยายอายุการคุ้มครองสิทธิได้คราวละ 10 ปี รวมทั้งชุมชนยังสามารถขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนคุ้มครองพันธุ์พืช เพื่อนำไปใช้ในการอนุรักษ์พันธุ์พืชของชุมชน ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการอนุรักษ์ พัฒนา และใช้ประโยชน์พันธุ์พืชอย่างยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง เพื่อสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลผลิต และผลิตภัณฑ์ของทุเรียนให้กับสมาชิกในชุมชนได้อีกด้วย


สำหรับการผลักดันให้พันธุ์พืชพื้นบ้านได้รับการจดทะเบียนเป็นพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น ไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องสิทธิของชุมชนในฐานะเจ้าของภูมิปัญญาเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการแปรรูป การส่งออก หรือการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยที่ผ่านมามีพันธุ์พืชที่ได้รับการจดทะเบียนพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่นแล้ว 3 พืช คือ ส้มเขียวหวานเทพรส (ปี 2561) มะปรางหวานทองประมูลพรหมมณี (ปี 2564) และลั่นทมชมพูปราจีน (ปี 2567) สำหรับเกษตรกรหรือชุมชนใดที่สนใจขอรับการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชพื้นเมืองเฉพาะถิ่น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช โทรศัพท์ 0 2940 7214” ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองพันธุ์พืช
