
ในการประชุมทางวิชาการครั้งที่ 60 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ “เกษตรศาสตร์วิถีถัดไป พลิกวิกฤตสู่ความยั่งยืน” เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ได้จัดให้มีการเสวนาพิเศษ เรื่อง Metaverse กับโลกการศึกษาและวิจัยในอนาคต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายถึง Metaverse และการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษาและการวิจัยอย่างมีศักยภาพสูงสุดในอนาคต โดย มีวิทยากรจำนวน 3 ท่าน ได้แก่ ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา นักวิจัยทีมโครงสร้างพื้นฐานซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อการคำนวณขั้นสูง (ThaiSC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดร.ศิริศิลป์ กองศิลป์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ผศ.ดร.โมเรศ ปรัชญพฤทธิ์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำเสนอตัวอย่างการนำเทคโนโลยีดิจิทัล โลกเสมือน Metaverse ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและแนวทางการพัฒนาในอนาคตให้กับเวทีการเสวนาพิเศษ โดยมี รศ.ดร.เมธินี วงศ์วานิช รัมภกาภรณ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้ดำเนินรายการ
ดร.รัฐภูมิ ตู้จินดา กล่าวถึงประเด็นการนำ Metaverse มาใช้ประโยชน์ด้านการวิจัย ว่า Metaverse คือโลกเสมือนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ สามารถทำกิจกรรรมต่างๆร่วมกันได้ โดยใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์รองรับการเข้าถึงโลกเสมือน Metaverse ได้เริ่มต้นจากการที่เฟซบุ๊กได้พยายามผลักดันให้เกิดแพลตฟอร์มใหม่ๆ เนื่องจากมีการแข่งขันและแย่งชิงพื้นที่ นอกจากนี้สถานการณ์โควิดทำให้คนไม่ออกจากบ้าน จึงจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ภาครัฐเองก็ต้องให้บริการแบบออนไลน์ แต่ระบบออนไลน์ยังมีข้อบกพร่องในเรื่องความพร้อมของเทคโนโลยี และการเข้าถึงข้อมูล จึงได้มีการนำระบบ AI มาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะด้านการศึกษาวิจัย ซึ่งในอนาคตการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบใหม่ๆ จะต้องพัฒนาอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่นการทวิตเตอร์ข้อความจากคลื่นสมองทำให้รู้ว่าแนวโน้มจะมีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว คนจะใช้ระบบบริการมากขึ้น ถ้า service อยู่ที่ไหนคนจะไปที่นั่น Metaverve สามารถระบุตัวตนของ user สามารถแลกเปลี่ยน และเชื่อมโยงข้อมูลกันได้ หากการเตรียมพร้อมของ AI ดีก็จะทำให้เกิดสินทรัพย์ในโลกสมัยใหม่ ทำให้เกิดโลกจริงกับโลกเสมือน
 - ดร.ศิริศิลป์ กองศิลป์ 
ดร.ศิริศิลป์ กองศิลป์ กล่าวถึง Metaverse กับการใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาและด้านพิพิธภัณฑ์ ว่า การสร้างโลกเสมือนจริง การใช้ Web 3.0 การใช้อินเตอร์เนต การใช้ข้อมูล ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมได้ โครงการวิจัยระบบ Metaverse กับพิพิธภัณฑ์ นั้น ได้ศึกษาการเข้าถึงสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ของบางประเทศ ได้ใช้เทคโนโลยี scanning แบบ digital แล้วประมาลภาพให้เสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี Destop AR technology ซึ่งต้องใช้แว่นพิเศษช่วย ในอนาคตเราไม่จำเป็นต้องไปถึงสถานที่ที่ต้องการเข้าชมหรือดู การเข้าถึงก็จะไม่ใช่แค่การเข้าชม เราสามารถเข้ามาเดินในโลกพิพิธภัณฑ์ได้ สามารถเลือกกิจกรรมที่อยากจะทำได้ ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกหลายๆ ประเทศเริ่มมีการตื่นตัว เช่น อเมริกา ไอแลนด์ โรมาเนีย แอฟริกา ฯลฯ Metaverse จะทำให้คนทั่วไปสามารถเรียนรู้ และสัมผัสวัฒนธรรมทั่วโลกได้ ตัวอย่างเช่น Gallary for NFT Arts ในวงการศิลปะ สามารถทำให้คนมีส่วนร่วมในงานศิลปะได้ การมอบ NFT ให้กับผู้บริจาคจะเป็นการกระตุ้นให้มีการอยากมาร่วมทำกิจกรรม ดังนั้น โลกใน Metaverse สามารถแสดงความเป็นเจ้าของได้ ด้านการศึกษาก็จะเป็นโลกของการเรียนที่มีการเชื่อมต่อกันได้ระหว่างคนเรียนกับผู้สอน
 - ผศ.ดร.โมเรศ ปรัชญพฤทธิ์ 
ด้าน ผศ.ดร.โมเรศ ปรัชญพฤทธิ์ กล่าวถึง Metaverse กับการประยุกต์ใช้ในการสอนออนไลน์และการฝึกทางการแพทย์ ว่า สถานการณ์โควิดที่ระบาดในไทย ทำให้สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ปรับตัวเป็นการสอนออนไลน์ ตัวอย่างเช่นการใช้ WebEx แต่การใช้แพลตฟอร์ม WebEx ทำให้เห็นเฉพาะหน้านักศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถสื่อสารภาษากายได้ รวมทั้งมีพื้นที่ในการทำงานจำกัด การโต้ตอบมีปฏิสัมพันธ์ในทางลบ ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ หรือประสบการณ์นั้นๆ ได้ จึงได้เปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์ม Social VR Platform คือTeaching in Mozilla Hubs ซึ่งผู้เรียนสามารถรู้พื้นที่ภายในห้องเรียน ทำให้มีแรงดึงดูดในการเรียนได้ดีเหมือนอยู่ในปัจจุบัน สามารถอัพโหลดโปรแกรมต่างๆ ได้ สามารถเคลื่อนไหว และดูได้ทุกมิติ มีปฏิสัมพันธ์มากกว่าการเรียนรู้ทั่วไป ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนจะตื่นตัว รู้สึกเหมือนเรียนในห้องเรียนจริง
ส่วนการฝึกทางการแพทย์ หรือระบบการแพทย์ฉุกเฉินนั้น ปัจจุบันมีการนำ VR storytelling and Emotional connection มาศึกษาวิจัยในการฝึกให้เกิดความต้านทานต่อความเครียด โดยทำผ่าน mozilla hub โดยให้ผู้รับการฝึกทดสอบได้รับความเครียด หรือ Stress inoculation มีการจำลองจากสถานการณ์จริง ซึ่งจากการทดลองการวัดความเครียดในสถานการณ์ฉุกเฉิน พบว่า หากผู้ประสบเหตุเบื้องต้นเกิดความเครียดจะทำให้ปฏิบัติงานไม่ได้
อย่างไรก็ตาม วิทยากรทั้ง 3 ท่าน มีความเห็นว่า เทคโนโลยียังมีช่องว่างที่จะต้องแก้ไขหรือพัฒนา ซึ่งคงจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วต่อไป บทบาท หรือการเรียนรู้ การเกิดนักวิจัยใหม่ในโลกใหม่ๆ การเปิดมุมมองใหม่ๆ ต้องแยกความเป็นจริง และความเป็นโลกเสมือนให้ได้
(ข่าวโดย ผกามาศ ธนพัฒนพงศ์ / นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ / มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ / 22 กุมภาพันธ์ 2565 / สรุปประเด็นเสวนาพิเศษ โดย จันทร์วิภา รัตนอานันต์)
 
            
 
		











































