สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 ระบุ ปีนี้ ลิ้นจี่แม่กลองสมุทรสงครามผลผลิตน้อย มีการสั่งจองล่วงหน้า ดันราคาพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท เตือนผู้บริโภค ระวังผู้ไม่หวังดี นำลิ้นจี่จากแหล่งอื่นไม่มีคุณภาพมาแอบอ้าง ว่าเป็นลิ้นจี่แม่กลองเพื่อหวังกำไร
นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสงคราม ถือเป็นแหล่งผลผลิตลิ้นจี่ที่สำคัญในภาคกลาง มีพื้นที่ปลูกลิ้นจี่ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.อัมพวา และ อ.บางคนที ส่วนใหญ่เป็นลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียก ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง และเป็นราชินีผลไม้ของจังหวัดที่คนทั่วไปเรียกว่า “ลิ้นจี่แม่กลอง”
จุดเด่นของลิ้นจี่แม่กลอง เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงเข้ม เปลือกแข็ง ตุ่มค่อนข้างแหลม เปลือกด้านในจะมีสีชมพู มีกลิ่นหอม หวาน เนื้อแห้งร่อนไม่ติดเมล็ด เนื้อสีขาวหรือขาวนวล เมล็ดเล็ก บ่าของผลกว้างสวยเป็นรูปหัวใจ รสชาติเข้มจัด หวานนำเปรี้ยวตามเล็กน้อย ซึ่งตามปกติลิ้นจี่สมุทรสงครามจะให้ผลผลิตปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม ถึง เมษายน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เนื่องจากลิ้นจี่เป็นพืชที่ต้องการอากาศหนาวเย็น บางครั้งให้ผลผลิตปีเว้นปี หรือบางครั้งอาจทิ้งระยะห่างนานถึง 3 ปี
จากการสำรวจของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 จังหวัดราชบุรี (สศท.10) พบว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการติดดอก จึงทำให้ลิ้นจี่ติดดอกน้อยและให้ผลผลิตที่ไม่สมบูรณ์ ต่อเนื่องมา 2 ปี โดยในปีนี้ พบว่า ยังมีปัญหาฝนหลงฤดูในช่วงที่ต้นกำลังติดดอก จึงทำให้ปริมาณผลผลิตลิ้นจี่แม่กลองออกสู่ตลาดน้อยเพียง 200 กิโลกรัม ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ ราคาจึงสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท
อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อ เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดี นำลิ้นจี่จากแหล่งอื่นคุณภาพไม่ดีมาแอบอ้างว่าเป็นลิ้นจี่แม่กลองเพื่อหวังกำไร โดยนำมาขายตามแหล่งต่างๆ ในช่วงนี้ ซึ่งท่านที่สนใจต้องการทราบสถานการณ์การผลิตของลิ้นจี่แม่กลองจังหวัดสมุทรสงครามเพิ่มเติม สามารถขอข้อมูลได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 จังหวัดราชบุรี โทร. 032 337 954 หรือ อีเมล zone10@oae.go.th

SIMA_webbanner_468x90_TH_animated